ยุคที่เส้นใยไฟเบอร์คือ “เส้นเลือดใหญ่”

หลายคนรู้สึก “ขอบคุณ” เทคโนโลยี “ไร้สาย” ซึ่งสามารถทำให้เราทำอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม แต่ที่จริงแล้ว “ไร้สาย” คือ “สายที่มองไม่เห็น” ซึ่งผูกโยงเราไว้ด้วยระยะทาง และยิ่งไปกว่านั้น ทั้งหมดยังต้องอาศัย “สายที่ถูกซ่อนไว้” เพื่อนำพาและส่งถ่ายพลังไปอย่างทั่วถึง

การสื่อสารด้วยการลากโยงสาย เป็นสิ่งที่ทำกันมานาน อาจจะตั้งแต่มนุษย์เราเริ่มรู้ว่า พลังงานไฟฟ้า สามารถส่งไปในที่ไกล ๆ ได้อย่างไร (หรืออาจจะตั้งแต่มนุษย์รู้จัก “สายสิญจน์” ?)

เมื่อเราสามารถส่งพลังงานผ่านสายทองแดงไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้ เราก็เปลี่ยนเสียงเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งไปได้บ้าง พอต่อมามีเทคโนโลยีบนฐานดิจิทัลและโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ก็ยิ่งทำให้ก้าวหน้า เพราะใช้แค่เลข 0 กับ 1 เนรมิตสิ่งต่าง ๆ ส่งว่อนไปมาหากันได้อย่างไม่จำกัด

เมื่อสิ่งที่ส่งถึงกันมีแต่เลข 0 กับ 1 ทำไมจะต้องไปแปลงให้เป็นพลังงานไฟฟ้าก่อนจะส่งผ่านสายทองแดงแล้วต้องแปลงกลับมาอีก โลกจึงเข้าสู่ยุคที่ได้ใช้ประโยชน์จาก “แสง” ซึ่งวิ่งไปตามสาย “ไฟเบอร์ออพติก” หรือ ใยแก้วนำแสง ที่สามารถรับส่งสัญญาณดิจิทัลได้รวดเร็วกว่า จนกระทั่งสายโลหะกำลังจะถูกแทนที่ด้วยสายเล็ก ๆ ใส ๆ นี้ในที่สุด

นี่คือยุคที่เรากำลังอาศัยดำรงชีวิตกันอยู่ ยุคที่สายใยไฟเบอร์รับช่วงต่อจากสายทองแดง ทำหน้าที่ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังความก้าวหน้าในทุกด้านของโลก

อินเทอร์เน็ตที่เราเล่นและใช้กันเพลิดเพลินอิสระไร้สายนี้ แท้จริงแล้วก็เชื่อมโยงกันด้วยสายที่ยาวมาก ๆ แบบข้ามน้ำข้ามทะเลข้ามมหาสมุทร เชื่อมทั้งโลกนี้ไว้ด้วยกัน (แน่นอนว่าดาวเทียมทำให้การสื่อสารแบบไร้สายเป็นไปได้จริง แต่ความคุ้มทุนและเสถียรภาพนั้นเทียบกันไม่ติด) บางทีเราจะเห็นข่าวเน็ตล่มทั้งประเทศ ก็เพราะสายที่ว่านี้แหละ เกิดความเสียหาย เพราะมีเรือมาชนเข้าพอดี

ถ้าพูดถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในไทย ที่อยู่กับ “สาย” มาทั้งสองยุค หลายคน รู้จักดีกับ Telecomasia ซึ่งต่อมา รีแบรนด์เป็น TRUE ในช่วงเวลาปรับตัวด้วยกลยุทธ์ Convergence และออกแบรนด์ย่อยเป็น เป็น TrueOnline ในที่สุด

TrueOnline ให้บริการเน็ตบ้านมายาวนาน ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้ช่วงต้น ๆ ที่ผันตัวเองจากเน็ตแบบชั่วครั้งชั่วคราว (dial up) ที่เสียทั้งค่าเน็ตและค่าโทรศัพท์ มาสู่เน็ต ADSL ที่ต่อยาวทั้งวันทั้งคืนในราคาเหมาที่ถูกกว่าซื้อแพ็กเกจเติมเงินมาก ๆ จากนั้นก็อัพเกรดเรื่อยมาทั้งในยุคเน็ตไร้สาย Wi-Fi ในบ้าน (ขอบคุณโปรโมชัน True แจกเราเตอร์ Wi-Fi) และมาสู่ยุคการเลิกใช้สายทองแดง หันมาใช้ “ไฟเบอร์” แทน

ขึ้นชื่อว่า “ไฟเบอร์” ซึ่งรับรู้กันว่าใช้ในธุรกิจใหญ่ ๆ ยอมรับว่าตอนแรก ๆ ก็ดูน่ากลัว (ราคา) แต่ต่อมาก็เริ่มเป็นมิตรมากขึ้น และเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ดีกว่าเดิมแล้ว ถ้าใครได้ใช้ไฟเบอร์ ก็คงไม่มีความคิดจะกลับไปใช้เน็ตแบบเก่าอีกเลย

ต้องเกริ่นยาวขนาดนี้เพื่อทำให้เห็นว่า “ไฟเบอร์” นั้นอาจจะเรียกได้ว่า เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อด้วยสายที่จะอยู่กับเราไปอีกนาน เป็นเทคโนโลยีสุดท้ายก่อนที่มนุษย์จะอัพเกรดไปสู่โลกการสื่อสารไร้สายโดยสมบูรณ์แบบ

โดยส่วนตัวเห็นว่า “ไฟเบอร์” นั้นมีความสำคัญพอ ๆ กับเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของการสื่อสารในปัจจุบัน ไม่ว่าจะระดับทวีป ประเทศ จังหวัด จนถึงระดับ “บ้าน” ของเรา

ระหว่างการเดินทางเคลื่อนที่ เรามีอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงผ่าน 4G 5G แต่เมื่ออยู่ประจำที่ ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านซิมมือถือเป็นต้นทุนที่สูงกว่า โดยเฉพาะหากเรามีความจำเป็นต้องใช้งานอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกันคุณภาพที่คาดหวังยังอยู่ในระดับรอง

ส่วนตัวที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการ “upload” การส่งไฟล์งานขนาดใหญ่มาก ๆ เข้าสู่ระบบคลาวด์เพื่อประมวลผลหรือใช้งานต่อไป หรือ การใช้งานบริการคลาวด์ทั้ง Dropbox, Google Drive, Creative Cloud, iCloud จะราบรื่นและมีประสิทธิภาพที่สุด ก็ควรจะทำงานอยู่บนอินเทอร์เน็ตบ้านที่เชื่อมส่งมาด้วยไฟเบอร์นี่เอง

TrueOnline ใช้เทคโนโลยี ASON หรือ Automatically switched optical network มาช่วยบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลที่ไหลผ่านโครงข่ายออปติก ซึ่งแก้ปัญหาการจัดการจราจรข้อมูลติดขัด และทำให้ใช้แบนด์วิดท์หรือช่องสัญญาณได้เต็มที่ที่สุด เมื่อประกอบกับการลงทุนในแบนด์วิดท์จนมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ หรือการเชื่อมตรงไปเซิร์ฟเวอร์เกมในต่างประเทศ ก็ทำให้คุณภาพเป็นที่น่าสนใจ

ด้วยระดับราคาปัจจุบันกับประสิทธิภาพที่ได้มา ไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลใด ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านจะไม่โยกย้ายขยับเทคโนโลยี จริงอยู่ที่ว่าบางทีอาจจะต้องมีเวลาลากเดินสายกันใหม่บ้าง แต่ก็น่าจะคุ้มค่า

ยิ่งดูโปรโมชั่นของ TrueOnline ตอนนี้ที่ใช้ความเป็น convergence ผสาน 7 บริการไว้ในแพ็กเกจเดียวกัน ครอบคลุมตั้งแต่โทรศัพท์บ้านจนถึง Wi-Fi นอกสถานที่ และความบันเทิงแบบ HD ถือว่าจูงใจสุด ๆ โดยส่วนที่สำคัญซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าจับต้องได้คือ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนจะลดลง และยัง “เติมเต็ม” โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารได้อย่างลงตัว เช่น แพ็กเกจ ซูเปอร์ ไฟเบอร์ พลัส 799 บาทต่อเดือน ได้ทั้งที่เน็ตแรงไม่อั้น ทั้งในบ้านและนอกบ้าน โดยมีความคุ้มค่าตั้งแต่

1️⃣ เน็ต 50Mbps (Upload 20Mbps)
2️⃣ เน็ตมือถือทรูมูฟ เอช 4G และ 3G แรงไม่อั้น ไม่ลดสปีด ความเร็วสูงสุด 4 Mbps
3️⃣ ใช้งาน WiFi by TrueMove H ได้ฟรี กว่า 100,000 จุด ทั่วประเทศ
4️⃣ ทรูวิชั่นส์ เอ็นจอยแพ็กเกจ สมัครภายใน 31 ธ.ค. นี้ อัพเกรดเป็น Smart Family HD Package ฟรี 3 เดือน
5️⃣ ชมความบันเทิงทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอป TrueID ฟรี 12 เดือน
6️⃣ โทรศัพท์บ้านทรู โทรหาเบอร์มือถือฟรีทุกเครือข่าย 50 นาที/เดือน นาน 12 เดือน
7️⃣ สิทธิพิเศษมากมายจากบัตรทรูเรดการ์ด

(ดูรายละเอียดที่ http://trueonline.truecorp.co.th)

ข่าวล่าสุดเมื่อ 11 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา TrueOnline ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจบรอดแบรนด์และทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการได้รับรางวัลระดับโลกด้านการตลาด จากงาน World Branding Awards ชื่อรางวัลว่า Brand of The Year 2017 แบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งเป็นแบรนด์จากประเทศไทย แบรนด์แรกแบรนด์เดียวในสาขาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต