Steve Jobs ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ที่ญี่ปุ่น แม้จะผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่หลายคำตอบ ยังใช้ได้อย่างทันสมัยในปัจจุบัน
วิดีโอสัมภาษณ์ครั้งนี้ถูกบันทึกว่าเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2001 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของญี่ปุ่น สัมภาษณ์ Steve Jobs หลายประเด็นน่าสนใจ ถึงชีวิตการเป็นผู้ประกอบการ การแบ่งยุคคอมพิวเตอร์ การทำงานที่ Apple และ วิสัยทัศน์ของเขา (ชมวิดีโอได้ที่ท้ายบทความ)
ในเวลานั้น Steve Jobs เพิ่งกลับมาทำงานที่ Apple ได้ 4 ปี ยังไม่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่หลายคนรู้จักในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น iPod iPhone iPad
ก้าวความสำเร็จของ Jobs ในเวลานั้น คือ การรื้อโครงสร้าง Apple เลิกผลิตสินค้าที่หลากหลายมากมายเกินไป แล้วมามุ่งจดจ่อ Focus อยู่ที่ตาราง 2 แถว 2 คอลัมน์ คือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์พกพา และ ผู้ใช้ทั่วไป กับ ผู้ใช้ระดับมืออาชีพ ก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์ซึ่งเน้นการออกแบบมาปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น iMac iBook PowerMac และ PowerBook
เคยคิดจะยอมแพ้ไหม ?
คำถามแรกที่ผู้ประกาศสาวถามเขาคือ “เกือบ 30 ปีแล้วที่คุณก่อตั้ง Apple คุณเคยคิดจะยอมแพ้บ้างไหม ?”
เขาตอบกลับไปทันที “โอ้ มันมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ๆ แต่ผมไม่คิดว่าเคยนะ ปี-สองปีแรกเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก ๆ สิ่งที่ผมคิดก็คือ ถ้าคุณคิดจะเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ คุณจะต้องมี passion ความมุ่งมาดปรารถนากับสิ่งนั้น เพราะมันยากมากจริง ๆ การเริ่มตั้งบริษัทใหม่เป็นสิ่งที่ยากมาก คุณจะต้องทำงานหนักมาก ถ้าคุณไม่มี passion แล้ว คุณก็จะยอมแพ้ไปก่อน”
“ความแตกต่างระหว่างผู้ที่ประสบความสำเร็จ กับ ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ คือ ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ตัดสินใจยอมแพ้ ล้มเลิกไปก่อน ก่อนที่เขาจะสำเร็จ ดังนั้นคุณจะต้องมี passion มาก ๆ เพราะมันเป็นเรื่องยากจริง ๆ”
“หลายครั้งมีคนมาบอกผมว่า เขาอยากจะตั้งบริษัทบ้าง ผมถามไปว่าทำไมล่ะ เขาบอกว่า เขาอยากมีเงินมาก ๆ ผมบอกว่า ถ้าด้วยเหตุผลนั้น ลืมไปเถอะ ส่วนใหญ่จะไม่สำเร็จหรอก”
“แต่บุคคลที่สำเร็จหลายคน บางทีเขาอาจจะไม่ต้องการก่อตั้งบริษัทอะไรเลย เขาแค่มีไอเดียที่อยากจะนำเสนอต่อโลก และหลายครั้งจำเป็นต้องตั้งเป็นบริษัท เพราะไม่งั้นก็ไม่มีใครยอมรับฟังเขา”
บทบาทของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
Steve Jobs ตอบเรื่องบทบาทของพีซี Personal Computer ว่า ในขณะนั้น เรากำลังอยู่ใน “ยุคที่สาม” เขาอธิบายว่ายุคแรกคือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มาช่วยทำงานต่าง ๆ ยุคต่อมาคือ ยุคอินเทอร์เน็ตที่ทั่วถึง
และเรากำลังเริ่มเข้าสู่ยุคที่สาม คือ วิถีชีวิตดิจิทัล เราจะเห็นอุปกรณ์ไฮเทคออกมามากมาย เช่น กล้องดิจิทัล มือถือ กล้องวิดีโอขนาดเล็ก และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะช่วยให้การใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ยอดเยี่ยมขึ้น
แนวคิดนี้ยังอยู่กับ Steve Jobs มาจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตเขา โดยในปี 2010 เขาเปิดตัว iPad เขาให้เหตุผลว่า นี่คือยุคที่เรียกว่า Post-PC หรือยุคที่มีอุปกรณ์มาทำให้คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องพีซี
Think Different
เขาตอบเรื่องการขับเคลื่อนแนวคิด Think Different ในบริษัท Apple ทำได้โดย การทำให้ดูเป็นตัวอย่างโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากในการตัดสินใจ การแสดงการตัดสินใจที่จะสั่งหยุดการผลิตบางอย่างเพื่อแก้ให้มันถูกต้อง
“เราพยายามจะจ้างคนเก่ง แต่เราพยายามทำโครงสร้างบริษัทให้เรียบง่ายที่สุด และพยายามมุ่งเน้นไปที่การโฟกัสกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ไม่กี่อย่าง การโฟกัสเป็นเรื่องยาก เพราะเราจะต้องบอกว่าอันไหนทำ อันไหนจะไม่ทำ เราจำเป็นต้องตัดสินใจไม่ทำหลายสิ่ง เพื่อที่จะโฟกัสในบางสิ่ง แล้วทำให้ดีที่สุด”
“ทุกคนในบริษัทต้องการจะทำอะไรบางอย่างที่ยอดเยี่ยม ต้องการจะตื่นเต้นกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ และพวกเขาต้องการเป็นที่รับรู้ เมื่อเขาได้ทำสิ่งที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น เราจึงพยายามทำให้คนที่ Apple ได้ทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยมในชีวิต และนำสิ่งนั้นไปถึงลูกค้า 25 ล้านคนได้ใช้งาน มันเป็นแรงผลักดันที่ยอดเยี่ยม”
อีก 10 ปีข้างหน้าคุณจะเป็นอย่างไร ?
ผู้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายด้วยคำถามที่หลายคนมักจะถามตัวเอง และก็ตอบตัวเองไปต่าง ๆ นานา แต่สำหรับคำตอบของ Steve Jobs อาจจะทำให้หลายคนประหลาดใจ..
“คุณรู้ไหม ไฟส่องทางด้านหน้าของผมไม่ค่อยดีหรอก ผมไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ผมไม่ได้คิดขนาดนั้น ผมคิดแค่ 1-2-3 ปีข้างหน้า เรามีโครงการบางอย่างที่ Apple ซึ่งเป็นแผน 4-5 ปี แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 3-4 ปี เพราะสิ่งต่าง ๆ มันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก”
“คุณอาจจะบอกว่า อีก 5 ปี คุณจะไปอยู่ที่จุดนั้น แต่แล้วมีบางสิ่งใหม่เกิดขึ้น คุณก็จะเปลี่ยนใจว่า ลืมแผนเดิมไปเถอะ เราจะมุ่งไปอีกทางหนึ่ง”
“จากประสบการณ์ที่ผมเห็นมา แผนระดับ 5 ปี บางส่วนก็มีความจำเป็น แต่ส่วนใหญ่มันเปลี่ยนเร็วมาก ดังนั้น เราจึงวางแผนโดยมองเพียง 3-4 ปีข้างหน้า เท่าที่เราจะมองเห็นได้เท่านั้น”
อีกราว 10 ปีครึ่ง หลังจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนั้น เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2011 Steve Jobs เสียชีวิตลงในวัย 56 ปี ขณะที่ Apple ก้าวทะยานสู่บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
วีดีโอความยาวราว 10 กว่านาที น่ารับชมรับฟังด้วยตนเองครับ..
https://www.youtube.com/watch?v=GuB-d7jRkCw
ส่วนอันนี้เป็นเวอร์ชั่นพากย์ญี่ปุ่นทับ
https://www.youtube.com/watch?v=GuB-d7jRkCwhttps://youtu.be/XITAhNzaIso