[16 มิ.ย.2551] เพิ่งจะรู้ว่าสิงคโปร์… ตอน 3

Posted on Monday 16 June 2008 at 20:20
ผมกลับถึงประเทศไทยแล้วครับ
ด้วยความอัดอั้นตันใจในสิ่งที่จะต้องเล่าให้ได้
ผมว่าคงต้องเล่ากันไปอีกหลายตอน อาจเฉียดหลักสิบ…
แต่ไม่รู้ว่าท่านผู้อ่านคิดอย่างไร หรือบางทีอาจจะมากเกินไป
สำหรับการเล่าเรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน
คิดอย่างไรก็ comment ไว้นะครับ ผมจะได้ปรับตัวทัน

=====================================


เช้าวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2551 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในสิงคโปร์ของคณะ
หากใครได้พลิก THE STRAITS TIMES หนังสือพิมพ์เจ้าใหญ่ของสิงคโปร์
(เอ่อ…จะมีสักกี่คนจะได้พลิกเนี่ย…เอาเป็นว่า สมมติว่ามีก็แล้วกันครับ)
เมื่อพลิกดูก็จะได้พบปรากฏการณ์มหกรรมการลงโฆษณาของบริษัทมือถือ
รวมแล้วเกิน 10 หน้าหนังสือพิมพ์…เต็ม ๆ !!!





บริษัทมือถือในสิงคโปร์ มี 3 ราย
ตั้งแต่ปี 2540 มีการเปิดเสรีในธุรกิจมือถือสิงคโปร์
ทำให้มีเอกชนเข้ามาร่วมเป็นผู้ให้บริการมือถือได้

1. Singtel – ก่อตั้งเมื่อปี 2422 หลัง อเล็กซานเดอร์ เกรแฮมเบลล์ ประดิษฐ์โทรศัพท์แค่ 3 ปี บริษัทนี้ บริษัทบริหารกองทุนของรัฐบาลที่มีชื่อคุ้นเคยกันดี “เทมาเส็ก” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัทของรัฐบาล เทียบได้กับ กสท หรือ ไทยโมบายล์ ของเรา บริษัทนี้มีสีแดงเป็นสีอัตลักษณ์
Singtel หรือ Singapore Telecom ครองตลาดร้อยละ 37.8 บริษัทนี้ไปลงทุนในประเทศอื่น มีหุ้นในอีก 6 ประเทศ โดยเฉพาะไปถือหุ้น 100% ในบริษัท Optus ครองตลาด 32.5% ในออสเตรเลีย รวมทั้งที่เอไอเอสของไทยเรา Sigtel มาถือหุ้น 21.4%

2. StarHub – บริษัทมือถือเอกชนสีเขียว ตั้งเมื่อปี 2541 ครองตลาดมือถือร้อยละ 30 ของสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีเคเบิลทีวี และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุดถึง 30 เมกะบิตต่อวินาที ครองตลาดร้อยละ 46

3. M1 – (เอ็มวัน) สีส้ม เป็นสีธงนำของบริษัทเอกชนรายนี้ ก่อตั้งเป็นบริษัทมือถือรายที่ 2 เมื่อปี 2540 ครองตลาดผู้ใช้งานในสิงคโปร์ประมาณ 1 ใน 3 หรือกว่า 1 ล้านคน แม้จะเกือบใกล้เคียงกับรายอื่น ๆ แต่ก็ถือว่าส่วนแบ่งตลาดน้อยสุด




สาเหตุที่ทำให้เหล่าบริษัทมือถือ ต้องควักกระเป๋าจ่ายกันหนัก
เพื่อซื้อหน้าหนังสือพิมพ์กันมโหฬารในช่วงนี้ ก็เพราะว่า
วันศุกร์ที่ 13 นี่เอง…

IDA: Infocomm Developement Authority หรือประมาณ กทช.บ้านเรา
เพิ่งจะกำหนดให้วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2551 เป็นวันเริ่มต้นระเบียบเรื่องเบอร์มือถือ
ที่เรียกว่า Number Portability คือ เปลี่ยนผู้ให้บริการได้อย่างอิสระโดยเบอร์ไม่เปลี่ยน

เช่น วันนี้คุณใช้ Singtel แต่คุณเห็นโปรโมชั่นของ M1 ดีกว่า
คุณก็โทรไปยกเลิกกับเจ้าเดิม แล้วสมัครเจ้าใหม่ได้ทันที
โดยคุณไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์โทร

ก่อนหน้านี้ บางคนเห็นโปรโมชั่นดี ๆ ก็ต้องถือสองเบอร์
เบอร์หนึ่งไว้รับสาย (เพราะเป็นเบอร์โทรเดิม) อีกเบอร์ไว้โทรออก
แล้วเวลาใช้จริงก็ต้อง Divert เบอร์จากเก่ามาใหม่ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสองต่อ








ผลจากการประกาศว่าจะใช้นโยบายนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
บริษัทมือถือต่างออกโปรโมชั่นดึงดูดใจ โหมโฆษณาเต็ม ๆ หลาย ๆ หน้า
หรือในห้างสรรพสินค้า เหล่าบริษัทมือถือก็ไปเปิดสังเวียนเรียกลูกค้ากันดุเดือด
เพื่อให้เกิดการเซ็นสัญญา ยอมเป็นลูกค้าต่อเนื่อง 2 ปี แต่อย่าหวังว่าค่าโทรจะลดนะครับ
ทั้งสามบริษัทต่างไปลดราคากันในจุดอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าจ่ายรวมมากกว่าเดิม
เช่น ขายรวมกับราคาเครื่องแบบถูก ๆ การมอบสิทธิพิเศษกับบริการเสริมอื่น ๆ
เช่น เคเบิลทีวี เน็ต เนื้อหารายการพิเศษสุด อย่างลูกค้า StarHub ได้ดูพรีเมียร์ลีกฟรี
ส่วนลูกค้า Singtel ได้ดูแชมเปี้ยนส์ลีก ของ M1 ก็มีรายการของ MediaCorp
รวมทั้งการลองให้โทรฟรี 3 เดือน โดยไม่มีสัญญาใด ๆ ของค่าย M1


มีโปรโมชั่นอันหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าบ้านเรามีหรือยัง
คือให้คนในบ้านเดียวกันแบ่งเวลาโทรกันได้
เช่น โปรโมชั่นของพ่อ 100 ชั่วโมง แต่พ่อใช้ไม่หมด
ก็เอาเวลาที่เหลือให้ลูกใช้ได้
ของ Singtel ให้เป็นคู่ พ่อหรือแม่กับลูก
ของ StarHub ให้แบ่งกันได้ 3 คนในครอบครัว
ของ M1 มาแรง แบ่งกันได้ถึง 5 คน

การเดินหน้าครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของวงการมือถือสิงคโปร์
และนำมาซึ่งการแข่งขัน เพื่อให้เกิดการเสนอประโยชน์ให้ผู้บริโภคมากขึ้น
อย่างชัดเจน

======================================================

IDA หน่วยงานที่ควบคุมกำกับการให้บริการมือถือ
เป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้กระทรวงชื่อ MICA
หรือ Ministry of Information, Communication and the Arts
กระทรวงนี้ดูแลสารสนเทศ การสื่อสาร และศิลปวัฒนธรรมของประเทศ
ดูทั้ง เนื้อหา-โครงสร้างพื้นฐาน-และค่านิยม


ถ้าเทียบแล้ว มิก้า เหมือนกับหลายหน่วยงานบ้านเรารวมกัน
คือ กรมประชาสัมพันธ์ + กระทรวงไอซีที + กระทรวงวัฒนธรรม + กทช. + กสช.

เนื่องจากโครงสร้างงานกระทรวงที่นี่ ค่อนข้างแตกต่างจากบ้านเรา
คือจะเน้นการกระจายอำนาจที่ชัดเจนลงไปสู่องค์กรและคณะกรรมการย่อย
ทำให้สำนักงานใหญ่ของกระทรวงมีคนทำงานอยู่ไม่มากนัก


จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กระทรวง
เพิ่งรู้ว่าในสิงคโปร์ ไม่มีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แต่นักวิทยาศาสตร์ นักพัฒนาจะแทรกซึมเข้าไปอยู่ในกระทรวงต่าง ๆ
ด้วยมีแนวคิดว่า งานทุกงานจำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีทั้งสิ้นอยู่แล้ว
และการทำงานที่นี่จะเน้นการทำงานเป็นทีมมาก
โครงการใหญ่ ๆ จะรวมตัวแทนจากกระทรวงต่าง ๆ เข้ามาร่วมกันทำงาน
ตามที่แต่ละคนถนัด…


ส่วนกระทรวงเกษตรฯ นี่ไม่มีนะครับ
สิงคโปร์ไม่ค่อยมีพื้นที่หรือทรัพยากรมากนัก
งานด้านพืช สัตว์ จะไปอยู่กับกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำ

กลับมาที่มิก้า…

มิก้า เมื่อก่อนชื่อว่า มิต้า (MITA) งานกระทรวงจะเน้นไปที่การสารสนเทศ ข่าวสาร ศิลปะ
ต่อมามีการนำ Communication เข้ามาร่วมด้วย จึงเปลี่ยนชื่อเป็น MICA


ปัจจุบัน มิก้า รับผิดชอบวิสัยทัศน์สำคัญของประเทศ
คือการเป็นหับของอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Industries)
ด้วยแนวคิดสำคัญ ซึ่งอาจจะทำให้หลาย ๆ คน “อ๋อ” มากขึ้น
ว่า อุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ คืออะไร อย่างไร


Creative Industries ประกอบด้วย
1. ARTS เช่น จิตรกรรม การแสดง ศิลปวัฒนธรรม และโบราณสถาน/วัตถุ
2. DESIGN เช่น โฆษณา งานสถาปัตย์ มัณฑณศิลป์ แฟชั่น อุตสาหกรรม นิทรรศการ
3. MEDIA เช่น สิ่งพิมพ์ สำนักพิมพ์ ภาพยนตร์ งานสื่อออกอากาศภาพ/เสียง เกมส์ เพลง
4. Software & IT Services เช่น ที่ปรึกษาไอที นักพัฒนา ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์


เขาบอกว่า ตั้งแต่อดีต โลกพัฒนามาหลายยุค
ตั้งแต่ ยุคเกษตรกรรม –> อุตสาหกรรม –> ข้อมูลข่าวสาร –> ความคิดสร้างสรรค์
พัฒนาการของกุญแจหลัก จากการใช้แรงงานของกรรมกร –> ทักษะ –> เงินทุน –> เทคโนโลยี –> ความรู้
นำสู่การพัฒนาของโลกยุคใหม่ คือ
โลกที่ผู้บริโภคที่ฉลาดมีความรู้ ทุกคนใช้เทคโนโลยี
ยุคสมัยผ่านไปรวดเร็ว นำมาซึ่งการแข่งขันระดับทั้งโลก

Creative Economy คือ การมองหาโอกาสใหม่ ที่เกิดจากจุดร่วมระหว่าง Business+Technology+Arts

เกิดเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ 1.0
โดยให้รับผิดชอบโดย 3 องค์กรหลัก คือ
MDA (หน่วยงานการพัฒนาสื่อ) Design Singapore (หน่วยงานด้านการออกแบบ)
และ สภาศิลปะแห่งชาติ (National Arts Council) ร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ อีกเพียบ
ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางเรื่องนี้ของเอเชียภายในปี 2015 (พ.ศ. 2558)


===================================================

ตอนนี้อาจจะเครียดหน่อยสำหรับหลายท่าน ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้
แต่หากพิจารณานำไปคิดต่อ น่าจะได้รับแนวคิด สกัดมาใช้ในชีวิตหรือธุรกิจของเราได้ครับ

และนี่คือภาพอาคารสำนักงานของมิก้าครับ ก็เขาเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์นี่นะ




อาคารนี้ดัดแปลงมาจากสถานีตำรวจเก่าที่มีขนาดใหญ่มาก
ปรับเปลี่ยนภายใน ตกแต่งภายนอกให้ดูสวยงาม มีหน้าต่างรอบตึกทั้งสิ้น 911 บาน



กระทรวง MICA มีคำขวัญกินใจชัดเจนดีครับ
Creative People, Gracious Community, Connected Singapore

(เอ่อ…นี่รูปผมเองครับ ถ่ายหน้าป้ายกระทรวงซึ่งอยู่ด้านหลังกระทรวง…บอกเด็ก ๆ อย่าตกใจกลัวนะครับ)
ชายคนนี้คือผมเอง ไม่ใช่คนสิงคโปร์นะครับ
ตอนหน้าจะมาเล่าเรื่องน่าสนใจของมิก้ากันต่อ
พร้อมเรื่องภารกิจสำคัญของหน่วยงานที่มีชื่อว่า HDB
กับโครงการยักษ์เพื่อชาวสิงคโปร์ : Pinnacle@Duxtontracker

รออ่าน…

Posted on Monday 16 June 2008 at 22:35 by oy
รออ่านตั้งแต่โยยังไม่ไป
ไม่ผิดหวังจริงๆ

Untitled Comment

Posted on Tuesday 17 June 2008 at 09:11 by Anonymous
เรื่องโทรศัพท์สนุกดี เรื่องหลังวิชาการไปหน่อย
ส่วนหน้าตาพี่โยก็เหมือนคนสิงคโปร์จิงๆนะ

ขอบคุณครับ

Posted on Tuesday 17 June 2008 at 09:59 by เฒ่าเว็บ
ที่่นำความรู้มาเล่าสู่กันฟังได้อย่างน่าสนใจ

สิบตอนมากไป

Posted on Tuesday 17 June 2008 at 10:23 by Anonymous
อะไรจะขนาดนั้น เล่าย่อๆพอประมาณ เดี๋ยวจะกลายเป็น ปชส. เทมาเส็กไปนะ ที่เขาเชิญคุณไปน่ะ รู้ได้ไงว่าเทมาเส็กไม่มีเอี่ยว คุณเองก็ตื่นเต้นมากไปอ๊ะป่าวที่ได้ไปเมืองนอก

ขอเสริมสิงคโปร์ด้วยคน

Posted on Tuesday 17 June 2008 at 13:28 by Anonymous
เคยไปสิงคโปร์เมิ่อเดือนก่อน เห็นแล้วตกใจกับความเป็นวัตถุนิยมมากเกินไป เขาเอาโบสถ์คริสต์เก่ากลางใจเมืองมากแปลงสภาพมาเป็นผับดิสโก้เทคและเบียร์ การ์เด้น ไม่เชื่อลองไปเที่ยวดูสิ สังเวชใจสุดๆ รู้สึกจะชื่อ Cjimp ทำนองเนี่ยหล่ะจำไม่ได้จริง

ไม่เห็นจะมากไปเลย คิดมากไปรึป่าว

Posted on Tuesday 17 June 2008 at 13:54 by Anonymous
เล่ามาเยอะ ๆ น่ะดีแล้วครับ ผมว่าคุณโยคงไม่ตื่นเต้นที่ได้ไปเมืองนอกหรอกครับเพราะผมเองก็เป็นคนนึงที่ เป็นแฟนคลับติดตามคุณโย คุณโยได้ไปมาหลาย ๆ ประเทศแล้วก็นำเรื่องราวดี ๆ มาแบ่งปัน คนอย่างนี้สิครับสมควรจะได้ไปในอีกหลายประเทศ คนที่ได้รับโอกาสอย่างคุณมีน้อยนะครับ คนอื่นอาจจะหาโอกาสอย่างนี้ได้ยาก !!! ทำดีต่อไปนะครับคุณโย สู้สู้

จะน่ารักมากถ้า…

Posted on Tuesday 17 June 2008 at 23:19 by Anonymous
จำบล็อกเกอร์คนที่ละเลงตำราอาหารจนรัวเต็มไปหมดที่บล็อกนี้ได้หรือเปล่า ถ้าเขียนสิงคโปร์สิบตอนก็อาจจะเหมือนเจ้าของตำราอาหารคนนั้นได้นะ คนอ่านจะเบื่อเสียก่อน เล่าให้เป็น เล่าให้กะทัดรัด จะน่าเอ็นดูมากกว่า รีบๆหลุดจากสิงคโปร์ไปคุยเรื่องอื่นดีกว่ามั้ย

อยากอ่านเรื่อง 3G

Posted on Friday 20 June 2008 at 14:32 by Anonymous
ต่างคนต่างจิต ต่างใจ
แล้วแต่ใครชอบเรื่องอะไร

ตัวพี่นี้ชอบทุกเรื่องที่คุณโยเขียน
อยากอ่านเรื่อง 3G
ช่วยสนองตัณหาพี่หน่อยนะ

insinga

Posted on Saturday 21 June 2008 at 12:31 by Anonymous
ขอแก้ให้คุณขอเสริมสิงคโปร์นะครับ
นั่นไม่ใช่โบสถ์นะครับ เป็นโรงเรียนคอนแวนต์เก่า
ตอนนี้ชื่อว่าCHIJMES

เยี่ยม!

Posted on Wednesday 25 June 2008 at 10:35 by ผ่านมา..เสพข่าว
ชอบๆๆๆ ได้ความรู้ดีงับ
จะรอติดตาม ^^

Bad Comment

Posted on Thursday 26 June 2008 at 13:54 by Anonymous
เห็นใน Hi5 ของคุณพีระพล ไปเที่ยวมาหลายประเทศ
คิดว่าคุณพีระพลคงไม่ตื่นเต้นเพียงเพราะได้ไป “เมืองนอก” ที่ชื่อว่า Singapore หรอกมั้งครับ

เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์จริง ๆ

Posted on Thursday 3 July 2008 at 15:21 by ไข่มุกอันดามัน…
โย… เล่าได้หนุกมากค่ะ มีทั้งสาระและสนุกสนาน ไม่ธรรมดาจริง ๆ ชอบมากที่สุดเลย…วันนึง ..น่าจะรวมเล่มได้…
..นายพี่ชาวสิงคโปร์ มาดูยังบอกเลยว่า…Very nice!!! ถ้าเค้าอ่านภาษาไทยได้คงบอกว่า Excellent !!!

ขอเป็นกำลังใจให้โยนะ ในการนำศักยภาพที่มี สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้น…ในโลกใบนี้ …

ขอบคุณมากจริง ๆ (ไช)โย…จะตามอ่านต่อไปนะ…
ขอบอกไม่ได้เชียร์นะ แต่เชียร์เต็มที่เลย…มาภูเก็ตเมื่อไหร่บอกด้วยนะน้อง จะพาไปเที่ยวให้เต็มที่เลย…

ติชม

Posted on Monday 18 August 2008 at 15:40 by Anonymous
ได้สาระดีมาก ขอชม แต่ถ้าเป็นนักการเมืองมองเห็นแบบนี้คงปรับปรุงพัฒนางานของตัวได้ดีขึ้น

raniaxbc

Posted on Wednesday 5 November 2008 at 02:47 by raniaxbc
<a href=”http://jkxyvjfz.com”>piiozxbu</a> [URL=http://zovxfkum.com]scjzunop[/URL] zsimcdwy http://giugvvlg.com lspprzcu pkftafeb

fodgxhxt

Posted on Wednesday 5 November 2008 at 02:48 by fodgxhxt
[URL=http://mbfdqamh.com]euroshfy[/URL] sxuwcudy http://ngurngaj.com gtatwivh vinzkney <a href=”http://yhpstcbw.com”>fmzkcywf</a>

ในที่สุด….

Posted on Monday 23 March 2009 at 18:50 by ษา
ในที่สุด..ก็โพสต์ได้ ด้วยความยากลำบาก..ยากความโง่เง่าของเรานี่เอง

ตึกหลากสีนี่..สวยดีเนอะ
แต่เรื่องราวของเค้านี่สิ มันส์กว่า

จะแอบอ่านไปเรื่อยๆ นะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.