รวมข้อมูลและสิ่งที่ค้นพบจากการใช้งานแอป Clubhouse ไว้ให้อ่านรวดเดียวจบ ตั้งแต่เริ่มต้น-ใช้เป็น-เล่นไม่เสี่ยงภัยไซเบอร์
UPDATE 1 : [18/2/64] เพิ่มเนื้อหา การเข้าใช้บนเครื่องอื่น สำหรับชาวแอนดรอยด์ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนมือถือเป็น iPhone
Clubhouse คืออะไร ?
แพลตฟอร์ม โซเชียลมีเดีย ที่ใช้ “เสียงสด” เป็นสื่อ
- ไม่มีภาพ ไม่มีคลิป ไม่มีตัวอักษร มีแต่การใช้เสียงเท่านั้นในการสื่อสารระหว่างกัน
- ผู้ใช้สามารถเลือกเข้าฟังหรือเข้าร่วมห้องสาธารณะต่าง ๆ ตามหัวข้อหรือบุคคลที่ตนสนใจจะเข้าฟังได้
- ผู้ใช้มีสิทธิ์เปิดห้องสาธารณะเพื่อคุยกันได้ และผู้ใช้คนอื่น ๆ สามารถเข้าร่วมเป็นผู้ฟัง หรือร่วมเป็นผู้พูดได้
- ไม่มีปุ่มไลค์ ไม่มีกล่องคอมเมนต์ มีแต่ฟังเงียบ ๆ กับยกมือขอพูด
- มีความเป็นโซเชียล ตรงที่มีการตั้งโปรไฟล์ การกดติดตาม การถูกติดตาม และการรายงานความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้
- เสียงต่าง ๆ จะไม่มีการบันทึกให้ฟังย้อนหลังได้
- หลายคนเทียบว่า คล้ายกับการฟังวิทยุสื่อสารแบบในอดีต
ผู้ก่อตั้ง Paul Davison และ Rohan Seth (สหรัฐอเมริกา)
เปิดตัว มีนาคม 2020
ข้อจำกัด
- ขณะนี้ (ก.พ. 2564) ยังใช้ได้เฉพาะบนอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 13 ขึ้นไป
- (ตั้งแต่ iPhone 6s, iPad Air 2, iPad mini 4, iPad Pro ทุกรุ่น, iPod touch 7 หรือใหม่กว่า)
- ยังไม่สามารถใช้ได้บน Android
- ผู้ใช้ใหม่ ต้องได้รับเชิญจากผู้ใช้เดิมเท่านั้น
- ผู้ใช้เดิม มีสิทธิเชิญคนได้อย่างจำกัด
- การลงทะเบียนต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ที่รับ SMS ได้เท่านั้น
ทำไมดัง ?
- เปิดตัวในยุคที่คนอยู่บ้าน
- ใช้งานง่าย
- มีคนดังเข้าใช้ เช่น Elon Musk
- สร้างกระแสกลัวตกยุค (FOMO — Fear Of Missing Out) และ สร้างอุปสงค์ ด้วยสารพัดข้อจำกัดและเงื่อนไข อาทิ กลไกที่ผู้ใช้ต้องได้รับเชิญจากผู้ใช้เดิมเท่านั้น หรือการมีบนเฉพาะ iOS เท่านั้น หรือการไม่มีให้ฟังย้อนหลัง
สมัครยังไง ?
- โหลดแอป https://join.club/app
- ต้องใส่เบอร์โทรและยืนยันความเป็นเจ้าของเบอร์ด้วยรหัสเลข 4 ตัวที่ส่งเข้า SMS (และต้องทำแบบนี้ทุกครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้ โดยไม่ต้องตั้งรหัสผ่าน)
- หากเบอร์โทรนั้นเคยได้รับคำเชิญจากเพื่อนแล้ว จะเข้าใช้งานได้เลย หากยังไม่เคยได้รับเชิญ จะเป็นการจองชื่อ username และเข้าอยู่ใน waiting lists รอให้มีเพื่อนคนอื่น ๆ ช่วยผลักดัน
- การตั้งชื่อ : แอปกำหนดให้ใช้ชื่อนามสกุลจริง
- Username : นำหน้าด้วย @ เหมือนระบบชื่อบน Twitter / Instagram
- แอปขอเข้าถึง “สมุดรายชื่อ” [ไม่จำเป็นต้องอนุญาต ก็ยังใช้งานแอปได้ แต่จะยังไม่มีสิทธิเชิญคนอื่น]
- เลือกความสนใจ : มีหลากหลายหัวข้อให้เลือก
- กระบวนการโซเชียล : เลือกติดตามเพื่อน เลือกรูปโปรไฟล์ เขียน bio
- แอปขอเข้าถึง ไมโครโฟน [จำเป็นต้องอนุญาต ถ้าต้องการพูดด้วย] และ ขอสิทธิแสดงการแจ้งเตือน [ปรับตั้งความถี่ได้]
- ผู้ใช้หน้าใหม่ จะได้สัญลักษณ์รูปพลุ 🎉 ติดอยู่ที่รูปประมาณ 1 สัปดาห์
(กรณีที่เคยโหลดสมัครไว้แล้ว ขั้นตอนอาจแตกต่างจากนี้)
ผู้ใช้ Clubhouse ทุกคน จะต้องสมัครด้วยเบอร์มือถือ จะเข้าใช้ได้ต้องมีคนเชิญเท่านั้น และจะมีชื่อคนเชิญอยู่ติดอยู่บนหน้าโปรไฟล์ตลอดไป
Clubhouse เพิ่มความยากในการสร้างแอคหลุม
เข้า Clubhouse ด้วย Android โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้ iPhone
- หลักการสำคัญ : แอปนี้ติดตั้งได้เฉพาะบนอุปกรณ์ iOS ก็จริง แต่เลขรหัสเข้าใช้งานจะส่งเข้าข้อความ SMS มือถือรุ่นไหนก็ได้
- ผู้ใช้แอนดรอยด์ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนเครื่องหลักไปใช้ iPhone สามารถเข้า Clubhouse ได้โดย…
- จัดหาอุปกรณ์ ต่อไปนี้ (สามารถติดตั้ง iOS 13 หรือ iPadOS 13 ขึ้นไป)
- iPad [iPad Air 2, iPad mini 4, iPad Pro ทุกรุ่น] หรือ
- iPhone เครื่องเก่า (iPhone 6s หรือใหม่กว่า)
- iPod touch 7
- Mac ที่ใช้ซีพียู M1 สามารถติดตั้งแอปได้ แต่ไม่สามารถเข้าฟังห้องต่าง ๆ ได้
- 📲 โหลดแอป Clubhouse มาติดตั้งในอุปกรณ์นั้น และทำการสมัครจองชื่อ หรือ Sign-in ลงชื่อเข้าใช้
- 📲 เมื่อต้องใส่เบอร์โทร ให้ใส่เบอร์โทรของมือถือ Android ที่ใช้อยู่ได้เลย
- 📳 ระบบจะส่งรหัสเป็นเลข 4 หลัก มาให้ที่ SMS ของเบอร์ที่ใส่ไปนั้นบนเครื่องมือถือ Android
- 📲 เอาเลข 4 หลักจากมือถือ Android ไปกรอกใน แอป Clubhouse อีกเครื่อง ก็จะเข้าไปสมัครหรือใช้งานได้
ทำยังไงให้ได้สิทธิ์เชิญเพื่อน ?
- เมื่อได้เข้าใช้แอปครั้งแรก จะได้สิทธิ์เชิญเพื่อน 2 สิทธิ์ จากนั้นต้องรอให้แอปส่งสิทธิ์มาให้เพิ่ม
- ยังไม่มีสูตรที่แน่ชัด แต่บนแอปเขียนไว้ว่า “เมื่อคุณตั้งห้อง และ มีส่วนร่วม บัตรเชิญจะเพิ่มเติมเข้ามาให้คุณเอง”
- ในต่างประเทศมีการซื้อขายบัตรเชิญในราคาสูง ซึ่งผมไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น
- อีกวิธีที่พูดกันว่าช่วยได้ คือ การโหลดแอปมาสมัครไว้ก่อน หากเบอร์เราอยู่ในเครื่องเพื่อนที่ใช้ Clubhouse อยู่แล้ว เราอาจจะได้รับการกดอนุญาตจากเพื่อนได้ทันที
- การเปิดแอปค้างไว้เฉย ๆ ไม่ช่วยเพิ่มโอกาสการได้สิทธิ์เพิ่มขึ้น
การเชิญเพื่อน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า เบอร์ของเพื่อนที่จะเชิญ บันทึกไว้ในแบบนำหน้าด้วยรหัสประเทศ +66 ไม่ใช่ เลข 0 (ไม่เช่นนั้นคำเชิญอาจไม่ถึงเพื่อน)
วิธีใช้ : ร่วมฟัง
- เป็นคนฟัง – เลือกห้องที่สนใจ ฟังใคร ๆ คุยกันแบบสด ๆ เหมือนฟังวิทยุ
- ยกมือขอแจม – หากอยากร่วมพูดหรือร่วมถาม ก็สามารถยกมือเพื่อขอให้ผู้ดูแล (Moderator) อนุญาตให้พูดได้
- ชวนคนมาฟัง – กดปุ่ม + เพื่อชวนเพื่อนมาฟังห้องเดียวกัน
- Leave quietly ออกจากห้องไปเงียบ ๆ
วิธีใช้ : เปิดห้อง
- กดปุ่มเขียว + Start a room เปิดห้องใหม่
- เลือกได้ 3 ประเภท คือ Open (เปิดกว้างสู่สาธารณะ) Social (เข้าได้เฉพาะคนที่เรา follow) และ Closed (ห้องคุยส่วนตัวเฉพาะคนที่เราเลือก)
- กด + Add a Topic มุมบนขวา เพื่อตั้งหัวข้อ (60 อักษร)
- สามารถเลือกให้คนในห้องเป็นผู้ร่วมดูแล Moderator ได้ และสามารถชวนหรืออนุญาตให้คนอื่น ๆ ในห้องร่วมพูดได้
- กดที่รูปปฏิทินด้านบน 🗓 สามารถตั้งเวลาไว้ล่วงหน้าเพื่อเปิดห้องได้ ซึ่งสามารถใส่รายละเอียดยาว ๆ ได้ เช่น หัวข้อที่จะคุย
- สามารถกดแชร์ลิงก์เพื่อเข้าห้องสนทนาได้ (แต่คนที่จะเข้าฟังได้ ก็ยังต้องได้รับคำเชิญก่อนอยู่ดี)
- เรายังสามารถดูที่รายชื่อเพื่อน (ลูบจากขอบขวาของจอ) แล้วดูเพื่อนที่กำลังออนไลน์ จากนั้นกดสร้างห้องแบบ Closed ได้ด้วย
- ห้องแบบ Closed สามารถปรับเปลี่ยนให้เปิดออกเป็นแบบ Open และ Social ได้ด้วยเช่นกัน
Room ห้องสนทนา
- ไม่มีจำกัดเวลา ตราบใดที่ยังมี Moderator อยู่ในห้อง
- ไม่มีการบันทึกเสียงในแอป เมื่อปิดห้องแล้วทุกอย่างหายไปหมด
- ไม่มีปุ่มกด Like
- สามารถกดรายงานผู้ใช้ได้
- ผู้ดูแลห้องสามารถเชิญคนออกจากห้องได้
Club ชมรม
- ผู้ที่จัดการสนทนาเป็นประจำมากกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อขอตั้งชมรม Club ถาวรได้ (ไม่หายไปเมื่อปิดห้อง) ซึ่งจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปบ้านสีเขียว
ค้นหา ห้อง-เพื่อน-ชมรม
- ค้นหาห้องที่เปิดอยู่ จากหน้าหลัก (All rooms) ซึ่งระบบจะเลือกห้องที่กำลังเปิดอยู่ และตรงกับหัวข้อความสนใจที่เราเคยเลือกไว้
- ค้นหาภายในห้อง สามารถค้นหาคนในห้องได้ (ใช้ในกรณีคนเยอะ)
- ช่องค้นหา หา People และ Club โดยค้นหาด้วย คำ หรือ username
สิ่งที่ลองและค้นพบ
ใช้หลายเครื่องพร้อมกันด้วยบัญชีเดียวกัน
- Sign in เข้าใช้บนหลายอุปกรณ์ ด้วยบัญชีเดียวกันได้ โดยทุกครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้ ต้องใส่รหัสที่ส่งมาทาง SMS
- เปิดฟังห้องคนละห้อง บนแต่ละอุปกรณ์ได้
- เปิดฟังห้องเดียวกัน บนแต่ละอุปกรณ์ได้ (แต่เสียงจะตีกัน)
- สร้างห้องใหม่คนละห้อง บนแต่ละอุปกรณ์ได้ (เคยลองสูงสุด 3 ห้อง จาก 3 เครื่อง)
ไม่จำเป็นต้องอนุญาตให้เข้าถึงสมุดรายชื่อ ก็ใช้งานได้
- การไม่อนุญาตให้เข้าถึงสมุดรายชื่อ เรายังใช้งานแอปได้ แต่ไม่มีสิทธิ์เชิญเพื่อนเท่านั้น
- สามารถใช้วิธี นำ iPhone ที่ไม่เชื่อมสมุดรายชื่อกับ iCloud แล้วใส่เฉพาะเบอร์ที่ต้องการเชิญลงในสมุดรายชื่อ จากนั้นค่อยอนุญาตให้แอปเข้าถึงสมุดรายชื่อ ก็จะช่วยให้เราควบคุมรายชื่อที่จะแชร์กับแอปได้
การใช้อุปกรณ์เสริม
- เสียบไมโครโฟนตัวเล็กที่ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงได้ (ทั้งแบบต่อช่องเสียบหูฟัง หรือ ต่อผ่าน Lightning)
- ใช้หูฟังแบบไร้สายได้ เช่น AirPods หรือหูฟังไร้สายอื่น ๆ
- ใช้งานผ่าน Wi-Fi ได้
ข้อควรระวัง
เมื่อใช้ Clubhouse เรากำลังแชร์ข้อมูลอะไร ?
แชร์ให้ผู้สร้างแอป
- เบอร์โทรเรา
- สมุดรายชื่อ [ถ้าเรากดอนุญาต]
- ข้อมูลพฤติกรรม/ช่วงเวลาเข้าใช้
- เรามีเบอร์ใคร-ใครมีเบอร์เรา-ใครรู้จักกัน
แชร์ให้เพื่อนหรือผู้ใช้ทั่วไป
- เรากำลังเปิดแอปอยู่หรือไม่
- เรากำลังเข้าฟังห้องไหนอยู่
- เรากำลังติดตามใคร
- ใครกำลังติดตามเรา
- ใครเป็นคนเชิญเราเข้ามา (จะอยู่ด้านล่างสุดของหน้าโปรไฟล์ พร้อมวันที่เราสมัครเข้าใช้งาน)
- เสียงของเรา
พึงตระหนักเรื่องความเป็นส่วนตัว และ ข้อมูลส่วนบุคคล
ไม่ถือวิสาสะ อัดเสียง ถ่ายคลิป หรือนำภาพหน้าจอของใครต่อใคร ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เช่นนั้นอาจจะเสี่ยงเป็นความผิด หากเกิดการดำเนินคดีทางกฎหมาย
แค่ “ส่อง” ไม่ได้
- การเข้าใช้ Clubhouse ไม่สามารถเข้าไปดูคลิป/โพสต์/แฮชแท็ก โดยไม่มีใครรู้ได้ (เหมือนที่เราทำบน YouTube Facebook Twitter)
- รวมทั้ง หากเกิดกรณีใด ๆ ไม่มีเสียงให้ฟังย้อนหลังได้ จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะชี้แจง
- ดังนั้น พึงตระหนักว่าจะมีใครสักคนหนึ่งมองเห็นการใช้งานของเราได้เสมอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์หรือการมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะตามมาได้
อาจถูกบันทึกเสียงและภาพ
- แม้ระบบแอปไม่มีการบันทึกเสียง แต่พึงตระหนักว่า อาจจะมีใครสักคน ยกกล้องมือถือขึ้นถ่ายบันทึกภาพและเสียงไว้ได้เช่นกัน
- อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความปลอดภัยไซเบอร์ กับแอป Clubhouse จาก ACIS Online
แค่ได้ยินเสียง ไม่เกี่ยวกับความถูกต้องของข้อมูล
- แม้จะได้ยินเสียงบุคคลจริง ๆ สนทนากัน แต่ยังคงต้องตระหนักว่า ข้อมูลทุกอย่างที่ได้เห็นได้ฟัง ยังจำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบไตร่ตรองก่อนเชื่อและแชร์ต่อ
🎉
ขอให้ทุกท่านปลอดภัยใน Clubhouse นะครับ และสามารถมาติดตามกันใน Clubhouse ได้ที่ @YOWARE ครับ
- บทความนี้รวมรวบจากการเข้าสังเกตการณ์ สนทนา หารือ ผ่าน Clubhouse กับเหล่าผู้กล้าที่เข้ามาเจอกันเป็นรายแรก ๆ โดยเฉพาะ อ.ธันยวัชร์ @thunyawat ที่กำชับว่า ควรทำสรุปเรื่องนี้ออกมา
- ขอบคุณ พี่โต้ง @iamSK และ คุณบอล @Kafaak ที่เป็นผู้กดอนุญาตให้ผมเข้าสู่วงการ Clubhouse
- ขอบคุณ พี่ขจร @kajorn พี่หาว @2hownext ที่กดเข้ามาคุยใน Room แรกของผม และพี่สุชัย @Suchai ที่ลองตั้งห้องคุยกัน
- ขอบคุณ @tomimod ช่วยอธิบายหลาย ๆ อย่าง