เกือบขวบปีที่แอป True ID ปรับเปลี่ยนจุดเน้น ก้าวมาเป็นคำตอบเรื่องความบันเทิงครบวงจรบนอุปกรณ์และโครงข่ายยุคใหม่ ก็เริ่มพอจะสะท้อนให้เห็นภาพว่า ทีวี ในอนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร
โทรทัศน์เป็นศูนย์กลางความบันเทิงในบ้าน จนกระทั่งอินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลง เมื่อโครงข่ายและอุปกรณ์สามารถให้ความบันเทิงตามความต้องการได้มากกว่า แน่นอนว่าผู้ชมก็พร้อมจะโยกย้ายไปสู่แพลตฟอร์มที่ดีกว่า
เดิมโทรทัศน์กำหนดเวลาและทำให้เราต้องนั่งอยู่หน้าจอทีวีเพื่อรอดูสิ่งที่เราสนใจ ซึ่งจัดให้วันละไม่กี่อย่าง แต่โลกในปัจจุบัน การเสพความบันเทิงไม่ได้ถูกจำกัดแบบนั้นอีกแล้ว ทุกคนสามารถดูรายการหรือเนื้อหาส่วนใหญ่ได้ในเวลาและสถานที่ที่ต้องการ
โทรทัศน์ในอนาคต ก็จะเป็นเหมือนเพียง “จอ” ที่ใหญ่กว่า อาจมีระบบเสียงที่ดีกว่า หรือที่นั่งและบรรยากาศที่ดีกว่า ดูได้พร้อมกันมากกว่า 1 คน แต่ข้อได้เปรียบนั้น ไม่ได้ทำให้โทรทัศน์ได้รับ “ความสนใจ” มากเท่ากับจอเล็ก ๆ อย่างมือถือ
ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า เดี๋ยวนี้ดูวิดีโอผ่านมือถือหรือผ่านโทรทัศน์มากกว่ากัน ?
สองสิ่งนี้ไม่ได้มาแทนกัน แต่สองสิ่งนี้จำเป็นต้องมี “ตัวเชื่อม” ที่จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
นั่นคือสิ่งที่หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกกำลังทำ และ ยังคงอยู่ในช่วงเวลาของการแข่งขัน พิสูจน์แนวคิด กว่าปูนจะเซ็ตตัว และเป็นมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ
แต่สำหรับคนไทย ผมคิดว่า True ID กำลังพยายามทำสิ่งนั้น ที่เหมาะกับพฤติกรรมและวิถีชีวิตของคนไทยที่สุด
ในบล็อกครั้งก่อนที่ผมกล่าวถึง True ID เรามองเรื่องการตลาดและแบรนด์ไปแล้ว ครั้งนี้หลังผ่านมาหลายเดือน และได้ลองใช้บริการมากขึ้น ก็ถึงเวลาที่จะบันทึกเรื่องประสบการณ์การใช้งานไว้
ก่อนหน้านี้ด้วยวิถีชีวิตส่วนตัวที่มีโอกาสนั่งอยู่หน้าจอทีวีน้อย ในช่วงเวลาหนึ่งจึงรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากสังคม บางทีก็คุยกับใครต่อใครไม่รู้เรื่อง เพราะจอคอมพ์และจอมือถือ ยังคงเป็นหน้าจอหลักที่จะเปิดใช้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงไม่ต้องพูดถึงบริการเคเบิลทีวี เพราะไม่มีโอกาสได้ใช้แน่ ๆ
ถ้าจะดูทีวีก็ต่อเมื่อมีกระแสอะไรบางอย่างที่แรงจริง ๆ แบบพลาดไม่ได้ เมื่อก่อนก็โหลดแอปชื่อ H TV ไว้ใช้ เปิดเหมือนเป็นทีวีจริง ๆ ซึ่งก็อาจจะพอทดแทนได้บ้าง
แต่หลังจากลองเปิดใช้แอป True ID นอกจากความสามารถในการดูช่องทีวีสด LIVE TV ยังมี interface ที่ทันสมัยกว่าเดิมแล้ว ก็ยังเปิดโอกาสให้ได้พบเนื้อหาใหม่ ๆ ที่กำลังเป็นกระแส ซึ่งรู้สึกสะดวกง่ายกว่าการรอดูข่าวบันเทิง อ่านฟีดในโซเชียล หรือ ไปดำดิ่งใน YouTube พอสมควร
ดาวน์โหลดแอป True ID http://bit.ly/2m4m7cS
บางทีช่วงเวลาที่ใช้น้อยลงในการ “หาสิ่งที่ใช่ให้เจอ” ก็ช่วยทำให้เรามีโอกาสได้สนใจและเปิดรับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่โดนใจคนจำนวนมากได้อย่างไม่ยากเหมือนที่เคยเป็นมา
อีกหมวดที่ชอบคือ MOVIES ซึ่งมีภาพยนตร์หลากหลาย รวมทั้งหนังใหม่มาให้ดูกันแบบต่อเนื่อง ไม่ต้องจ่ายเช่า และ ที่สำคัญไม่ต้องละเมิดลิขสิทธิ์ขโมยใครดู
ไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนกันบ้างไหม บางทีก็อยากได้ประสบการณ์เดียวกับนั่งดูทีวีอย่างทรูวิชันส์ ที่มีช่องโน่นนี่มากมายไม่จำกัด แต่ติดด้วยเวลาและสถานที่ ทำให้ต้องตัดสินใจ “ตัดใจ” แต่พอใช้แอป True ID ก็เริ่มเห็นลู่ทางว่า การได้ดูรายการดี ๆ กีฬาเด่น ๆ นั้น ไม่ต้องวุ่นวายหรือกำหนดกรอบอะไรให้ตัวเองมาก
ล่าสุด การถ่ายทอดฟุตบอลลีกดัง ทั้งบอลไทย บอลนอก ก็ดูได้ผ่านแอป True ID นี้ นึกถึงโฆษณานี้ แม้จะดูฮา ๆ แต่สะท้อนว่า True ID ก็พยายามเข้ามาแก้ปัญหาที่คอกีฬาประสบ
เมื่อก่อนทำไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้ทำได้ เพราะอุปกรณ์รองรับ และ โครงสร้างพื้นฐานนั้นเพียบพร้อม
นอกจากนั้น ยังได้ลองใช้แอป True ID บนมือถือที่ใส่ซิม AIS ก็พบว่ารับชมรายการต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด สำหรับลูกค้าค่ายมือถือที่ไม่ใช่ TrueMove H ก็สามารถโหลดแอปนี้และเปิดใช้บริการได้ (ฟรี 3 เดือนแรก)
ส่วนผู้ใช้มือถือ TrueMove H ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเน็ตจะหมด เพราะ True ID ไปผนวกอยู่กับแพ็กเกจที่กำลังได้รับความนิยม คือ 4G+ FUN Unlimited ที่จัดให้ดูแบบ Premium HD ฟรี 1 ปีเต็ม (แพ็กเกจ 699 ขึ้นไป) หรือ ถ้าเป็นแพ็กเกจ 899 ขึ้นไป ก็จะใช้เน็ตมือถือเพื่อดูหนังฟังเพลงจากแอป True ID ได้แบบไม่อั้น ไม่ลดสปีด
ตอนนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับหลาย ๆ คนที่จะลองใช้ True ID เพราะประสบการณ์แบบนี้ ผมเชื่อกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์อนาคต และเป็นสิ่งที่มาทดแทนคำว่า “ทีวี” ไปอีกนาน
