TrueMove H เปิดโปรฯ iPhone 8 / iPhone 8 Plus ที่ให้ทั้งส่วนลด ของแถม และ สิทธิพิเศษ พร้อมสัญญาณการเปลี่ยนแปลง
iPhone 8 เปิดราคาไทยที่ไม่ค่อยต่างจาก iPhone 7 หรือ 6s มากนัก เมื่อเทียบกับความจุและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น จากเดิมเป็นที่รู้กันว่า iPhone ตัวความจุระดับล่างนั้นแทบจะซื้อมาแล้วใช้ยาก เพราะความจุ 16GB หรือ 32GB แต่คราวนี้ เปิดมาด้วยความจุ 64GB ซึ่งสมจริงสมจังมากกว่า หรือถ้าจะระดับสูงขึ้นก็ข้ามไป 256GB เลย ซึ่งคนที่ชอบถ่ายรูปถ่ายวิดีโอจะสบายใจมาก ๆ (แต่ก็ต้องจ่ายเพิ่ม)
โปร iPhone 8 ของ TrueMove H คราวนี้ ดังที่เห็นได้จากตารางที่เผยแพร่อยู่บนหน้าสั่งจอง iPhone 8 แล้ว ก็จะพบว่า คุณสามารถซื้อ iPhone 8 ในราคาต่ำที่สุดที่ 23,000 บาท ลดจากราคาเครื่องเปล่า 6,000 บาท (หรือลด 5,500 จากราคาเครื่องเปล่าบนเว็บ Apple) ได้ iPhone 8 รุ่น 64GB หรือ เพิ่มอีก 4,000 บาท ได้ iPhone 8 Plus รุ่น 64GB (ซึ่งหลายคนบอกว่า “คุ้มค่า” กว่า iPhone X)
ของแถม
ของแถมที่น่าสนใจมาก ๆ คือ Belkin Wireless Charger มูลค่า 1,490 บาท สำหรับคนที่ย้ายค่ายเบอร์เดิมเพราะ iPhone 8 นี้แม้จะชาร์จไร้สายได้ แต่ Apple ก็ไม่ได้แถมมาให้ด้วย เป็นสิ่งที่คุณต้องซื้ออยู่ดี หากต้องการจะใช้ iPhone 8 ให้เต็มความสามารถใหม่
สิทธิพิเศษ
ถ้าสมัครแพ็กเก็จรายเดือนแบบ 1,899 ก็จะได้รับทรูแบล็คการ์ดซึ่งมีสิทธิพิเศษอีกหลายรายการอีกด้วย
นำ iPhone เครื่องเดิมมาอัพเกรด
สำหรับคนที่กำลังเล็งจะเปลี่ยน iPhone เครื่องเดิม เป็น iPhone 8 ตั้งแต่วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป สามารถอัพเกรดเป็น iPhone 8 ได้ที่ทรูช้อปที่ร่วมรายการ
รายละเอียดเพิ่มเติมสแกน QR Code หรือคลิก http://truemoveh.truecorp.co.th/news/detail/643
ระยะสัญญาและการจ่ายค่าบริการล่วงหน้า
หนึ่งในเงื่อนไขของการได้รับส่วนลดมาก ๆ ที่ TrueMove H จัดให้ คือการทำสัญญาจะใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และ ชำระค่าบริการล่วงหน้า แล้วค่าบริการที่ชำระล่วงหน้านี้จะถูกนำมาเฉลี่ยจ่ายค่าบริการรายเดือนในช่วงอายุสัญญาที่ทำไว้ ในอดีตที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นสัญญา 1 ปี และค่าบริการรายเดือนจะถูกแบ่งมาจ่าย 10 เดือน แต่สำหรับคราวนี้ ระยะสัญญา ค่าบริการล่วงหน้า และการแบ่งจ่ายเปลี่ยนไป
ระยะสัญญามี 2 ระดับ คือ 6 เดือน กับ 9 เดือน ส่วนค่าบริการล่วงหน้ามี 4 ระดับ คือ 1000, 2000, 3000, 4000 บาท ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามส่วนลดแต่ละระดับ และนำไปหักรายเดือนเดือนละ 200, 250, 375, และ 500 บาท นาน 5 เดือน หรือ 8 เดือน
พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าอยากได้ส่วนลดเครื่องเปล่ามาก ก็ใช้แพ็กเกจรายเดือนที่ราคาสูงหน่อย (แต่ก็จะมาพร้อมปริมาณเน็ตและนาทีโทรที่มากขึ้น) และก็จ่ายบริการล่วงหน้ามากหน่อย
และสัญญาที่สั้นลง ทำให้หลังจากนั้นก็จะมีอิสระในการพิจารณาปรับเปลี่ยนได้เร็วขึ้น
ผู้มีสิทธิ์ได้รับส่วนลด
นอกจากลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ เปลี่ยนเติมเงินเป็นรายเดือน หรือ ย้ายค่ายเบอร์เดิม (ตั้งแต่ 1 ต.ค.2560) แล้ว ลูกค้ารายเดือนปัจจุบันที่ติดสัญญาเหลืออีกไม่เกิน 90 วัน ก็มีสิทธิย้ายมารับสิทธิพิเศษนี้ได้เลยเหมือนกัน
ตารางคำนวณค่าใช้จ่ายรวม
ถ้ามึนกับตัวเลขและยังสงสัยว่าแพ็กเกจไหนคุ้มหรือเหมาะสมกว่ากัน ดูตารางเปรียบเทียบวิเคราะห์ให้เห็นชัด ๆ ว่า ระดับค่าบริการรายเดือนต่ำสุด ไม่ได้แปลว่าค่าใช้จ่ายรวมจะต่ำที่สุดเสมอไป
ถ้าคุณใช้เน็ตและโทรไม่มาก แพ็กเกจ 899 ที่ได้ลด 4000 บาท จะคุ้มที่สุด แต่ถ้าใช้เน็ตมากควรเริ่มที่แพ็กเกจ 1099 ซึ่งจะได้เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด จากนั้นค่อยไปดูว่า นาทีโทรแต่ละเดือนอยู่ในระดับแพ็กเกจใด
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นคนที่ใช้เน็ตมาก หรือวางแผนว่าจะใช้เน็ตมาก อยากจะชี้ให้ดูแพ็กเกจ 1099 ไว้ เพราะเมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอด 9 เดือนแล้ว จ่ายมากกว่าแพ็กเกจ 899 เพียงเดือนละ 103 บาทเท่านั้น แต่ได้เน็ตแบบไม่อั้นไม่ลดสปีดเลย
ความช่วยเหลือ
ในโอกาสนี้ True ยังแนะนำให้รู้จัก TrueSphere Apple Excellence หรือพนักงานที่มีความหลงใหลและเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเรื่องผลิตภัณฑ์ Apple และยังผ่านการทดสอบจาก Apple ด้วยว่าสามารถต่อยอดความรู้ให้กับผู้ใช้งานได้ ที่น่าสนใจคือจะมี Workshop iPhone 8 & IoT” ที่ TrueSphere ซึ่งจะทำให้เราดึงพลังศักยภาพของอุปกรณ์ Apple ออกมาสร้างสรรค์ชิ้นงานได้มากขึ้น ถ้าอยากรู้จักและพูดคุย เรียนเชิญแวะไปที่ TrueSphere ทุกแห่งเพื่อขอคำแนะนำและให้คำปรึกษาได้เลย
วิเคราะห์ตัวเอง
สุดท้ายก่อนจะตัดสินใจ อย่าลืมตรวจสอบวิถีชีวิต พฤติกรรม และ ความตั้งใจของตัวเอง ว่าเหมาะสมพร้อมเพรียงกับการจะลงทุนใช้เทคโนโลยีระดับสูงที่มากับอุปกรณ์ชิ้นนี้อย่างคุ้มค่าได้หรือไม่