เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นบ้านแสนรู้ที่อะไร ๆ ก็อัตโนมัติไปหมด
“ในวันที่อากาศดี อารมณ์ดี โนบิตะแต่งหล่อออกจากบ้าน เพราะมีนัดทำการบ้านกับชิซูกะจัง แต่ระหว่างที่เดินผ่านบ้านไจแอนท์ ก็โดนดักและบังคับให้เฝ้าบ้านและทำความสะอาดบ้าน (อันรกเลอะเทอะ) แทน เพราะไจแอนท์จะออกไปเล่นเบสบอล จนเมื่อโดราเอมอนตามมาเจอ จึงหนีไม่พ้นต้องใช้ของวิเศษ ที่ทำให้บ้านทั้งหลัง ทำงานบ้านเองได้ และยังเฝ้าตัวเองได้ อะไร ๆ ก็ดูดี จนกระทั่งบ้านหลังนี้กลับสู่อ้อมอกของไจแอนท์…”
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร รับชมกันได้ตรงนี้…
大山版ドラえもん 第57話 ハウスロボット โดย goudazakkaten
“บ้านหุ่นยนต์” ( ハウスロボツト House Robot) เป็นตอนที่ 57 ของการ์ตูนชุดโดราเอมอน ที่ฉายทางโทรทัศน์ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2522 และกลับมารีเมคออกฉายใหม่เมื่อปี 2548 (ซึ่งเวอร์ชั่นที่เพิ่งมาฉายทางโมเดิร์นไนน์การ์ตูนคือเวอร์ชั่นใหม่ ที่มีการปรับเนื้อเรื่องเล็กน้อย ในตอน “เปลี่ยนบ้านให้เป็นหุ่นยนต์”)
แล้วเวลาก็ผ่านมาเกือบ 40 ปี ในวันนี้จินตนาการของผู้เขียนโดราเอมอนเริ่มใกล้ความจริงเข้าไปทุกขณะ
แม้เรายังไม่รู้ได้ว่าใครจะเป็นผู้สร้างโดราเอมอน หรือ หุ่นยนต์แบบนี้จะมีจริงหรือไม่ แต่เส้นทางเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นบ่งชี้ชัดเจนว่า “บ้านหุ่นยนต์” กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน
ปลายปี 2014 Amazon ออกวางจำหน่าย Amazon Echo ท่อนลำโพงสีดำเรียบหรูที่ไม่ใช่แค่ให้ตั้งเปิดเพลงในบ้าน แต่ในตัวมันยังมีสารพัดอุปกรณ์เซนเซอร์ รวมทั้งไมโครโฟน และความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ชื่อว่า Alexa ที่สามารถประสานสั่งการแอปพลิเคชั่น เช่น เรียกแท็กซี่ และสั่งการอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ ราวกับเป็นเลขาส่วนตัวที่มานั่งอยู่ในบ้าน พร้อมรับคำสั่งตลอดเวลา
ปลายปี 2016 Google เปิดตัว Google Home ก้อนลำโพงสีขาวเก๋ไก๋ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ Amazon Echo นั่นแหละ เพียงเชื่อมโยงกับสมองประมวลผลคนละตัวกัน Google Home เชื่อมกับ Google Assistant และระบบการค้นหาขนาดใหญ่ของ Google
กลางปี 2017 มีข่าวว่า Apple เตรียมจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ลำโพงเช่นเดียวกัน ยังไม่แน่ว่าจะชื่ออะไร แต่แน่นอนว่าจะเชื่อมโยงกับระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ชื่อว่า Siri ซึ่งผู้ใช้ iOS คงคุ้นเคยกันดี
เชื่อแน่ว่าเราจะเห็นผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันนี้ออกมาอีกหลายเจ้า…
– ลำโพงที่ต่ออินเทอร์เน็ต
– เชื่อมโยงระบบสั่งงานด้วยเสียง
– ซึ่งมีกลไกแบบปัญญาประดิษฐ์
– ที่จะสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในบ้านและนอกบ้านของเราได้
อ่านมาถึงตรงนี้คุณเห็นอะไรเหมือนผมไหม ?
ใช่ครับ! “ลำโพง” นั้นเป็นเพียงแค่ฉากหน้า แต่ที่จริงแล้ว อุปกรณ์หลักของมันคือ “ไมโครโฟน” ต่างหากล่ะ
มือถือในปัจจุบันที่ฉลาดกว่าเมื่อก่อน ก็เพราะผู้ผลิตยัดใส่สารพัด “เซนเซอร์” เข้าไป และก็เฉกเช่นเดียวกัน การที่จะทำให้ทั้งบ้านฉลาดขึ้นมาได้ ก็ต้องติดตั้งสารพัดเซนเซอร์เข้าไป และเซนเซอร์แรกที่บริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคทุกรายคิดตรงกันก็คือ การติดไมโครโฟน ให้กับบ้านนั่นเอง
ถ้าตรงนี้คือจุดเริ่มต้น และ สิ่งที่เราเห็นในการ์ตูนโดราเอมอนคือจุดปลายทาง ก็คงเดาได้ไม่ยากว่า หลังจากนี้เราจะเห็นอะไรตามมาอีก…
Amazon ชิงนำไปก่อนด้วยการเปิดตัวลำโพง Echo Dot รุ่นเล็กเพื่อเพิ่มปริมาณลำโพงในบ้าน กับ Echo Look ที่เป็นกล้องซึ่งทำตัวเหมือนกระจกวิเศษ ช่วยประเมินการแต่งตัวให้เรา
หลังจากไมโครโฟนและลำโพงถูกติดตั้งไว้ทั่วบ้าน เท่ากับว่า สะพานเชื่อมระหว่างระบบปัญญาประดิษฐ์ (ซึ่งจะทำตัวเป็นสมองของบ้าน) กับมนุษย์ถูกสร้างขึ้นแล้ว
[UPDATE] นี่เขียนยังไม่ทันขาดคำ Amazon ก็เปิดตัว Amazon Echo Show ลำโพงมีจอสัมผัส คุยโทรแบบเห็นหน้าได้ และทำให้การควบคุมดูแลบ้านนั้นง่ายขึ้น (ดูคลิป)
https://www.youtube.com/watch?v=WQqxCeHhmeU
จากที่เคยสั่งงานได้เท่าที่มันมีกำลัง (เช่น การค้นหาเว็บ การสั่งให้เปิดเพลง) ก็จะขยับขยายไปสู่ทิศทางที่เราจะสั่งให้มันทำอะไรได้มากขึ้น แต่ก็จะต้องมีสะพานเชื่อมอีกหนึ่งปล้อง นั่นคือ การเชื่อมระหว่าง บ้าน กับ ของใช้ภายในบ้าน ต้องคุยกันเองรู้เรื่องด้วย
สารพัดอุปกรณ์ในบ้านจะทยอยเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและคุยกับ “ลำโพง” ซึ่งทำตัวเปรียบเสมือน “เจ้าที่”
ทีวี ปลั๊กไฟ หลอดไฟ กริ่ง กลอน ประตู หน้าต่าง เครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น ก๊อกน้ำ ฯลฯ จะอยู่ภายใต้การควบคุมสั่งการของ “ลำโพงเจ้าที่” ซึ่งมันจะช่วยจัดการบ้านให้เป็นไปตามใจเราอีกทอดหนึ่ง
ในการ์ตูนโดราเอมอนตอนที่ผมเอามาให้ดู ใช้จอทีวีเป็นใบหน้าของบ้าน สื่อสารกับมนุษย์ผ่านข้อความ ภาพ และเสียง
ถ้าเทียบกับทุกวันนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับ Siri ใน Apple TV ซึ่งก็กำลังจะควบคุมบ้านทั้งหลังได้เช่นกัน (ด้วยชุดคำสั่ง HomeKit ที่เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน)
ประเด็นที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ อาจจะเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เมื่อบ้านทั้งหลังต่อเน็ต เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า บ้านจะไม่ติดไวรัส หรือถูกแฮ็กเปิดประตูเข้ามาได้ง่ายกว่าเดิม ?
ด้วยสนนราคาค่างวดสำหรับการทำให้บ้านฉลาดนั้นยังอยู่ในหลักหมื่นขึ้นไป คำว่า “สิ้นเปลือง” จึงอาจจะกำลังอยู่ในสมองของคุณผู้อ่านหลายท่านในวันนี้ แต่ในอนาคตนั้นไม่แน่หรอกครับ
เพราะหลายคนก็เคยมองว่าโทรศัพท์มือถือเป็นของสิ้นเปลือง มาแล้วเหมือนกัน