ส่วนหนึ่งจาก พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเมื่อ 4 ธันวาคม 2532 :
(อ้างอิงจาก http://www.tungsong.com/Important_Day/Thai_environment/Environment_02.asp)
“…เมื่อเร็วๆ นี้ เกิดคิดขึ้น หรือควรพูดว่าได้ข้อมูลมาเกี่ยวกับเรื่อง
เรื่องหนึ่งซึ่งเขาเดือดร้อนกันทั่วโลก คือ
ความเดือดร้อนที่ทุกคนจะต้องประสบ
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รู้
แล้วคนที่รู้ บางทีก็โวยวาย ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาก
ปัญหานี้ เคยได้พูดถึงที่อื่นมาแล้ว
เกี่ยวข้องกับสภาพสิ่งแวดล้อมของโลก ซึ่งกำลังวุ่นวายกันมาก
ทั้งผู้ใหญ่ทั้งผู้น้อย ทั้งผู้ที่อยู่ในทวีปยุโรป อเมริกา เอเซียก็พูดกันทั้งนั้น
คือ ปัญหาว่า สิ่งแวดล้อมจะทำให้โลกนี้เปลี่ยนแปลงไป
บางคนเขาบอกว่า ฝรั่งมาชี้หน้าและพูดว่า
“นี้ บางกอกนี้ก็จะอยู่ใต้ทะเลภายในไม่กี่ปีน้ำก็จะท่วม”
ความจริงเราก็รู้อยู่แล้วว่า กรุงเทพฯ น้ำท่วม
แต่เขาบอกว่า น้ำจะท่วมจากทะเล เพราะว่าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลง
เขาบอกว่าเพราะว่ามีสารคาร์บอนขึ้นไปในอากาศมาก
จะทำให้เหมือนเป็นตู้กระจกครอบ แล้วโลกนี้ก็จะร้อนขึ้น
เมื่อโลกนี้ร้อนขึ้น มีหวังว่าน้ำแข็งจะละลายลงทะเล
และรวมทั้งน้ำในทะเลนั้นจะพองขึ้น
เพราะสิ่งของที่ร้อนขึ้นย่อมมีการพองขึ้น ปริมาตรก็มากขึ้น
เมื่อน้ำพองขึ้น ก็จะทำให้ที่ต่ำ เช่น กรุงเทพฯ ถูกน้ำทะเลท่วม
อันนี้เป็นเรื่องเขาว่า ก็เลยสนใจว่าเรื่องเป็นอย่างไร
จึงได้ข้อมูลมาว่า สิ่งที่ทำให้คาร์บอน (ในรูปคาร์บอนไดออกไซด์) ในอากาศ
เพิ่มมากขึ้นนั้น มากจากการเผาเชื้อเพลิงซึ่งอยู่ในดินและจากการเผาไม้
ซึ่งตามตัวเลข จำนวนคาร์บอนในอากาศนี้… ไม่ทราบว่าท่านจะจดจำได้หรือไม่
เพราะว่าพูดไปอย่างนี้อาจจดจำไม่ได้ แต่บอกได้ว่า
ในอากาศนี้มีสารคาร์บอน มี คาร์บอนอยู่เดี๋ยวนี้จำนวน 700 พันล้านตันโดยประมาณ
(700 พันล้าน ก็คือเจ็ดแสนล้านนั่นเอง
แต่เมื่อนับเป็นจำนวน พันล้าน ซึ่งฝรั่งเรียกว่า “บิลเลี่ยน” จึงพูดไป 700 พันล้าน)
คราวนี้ การเผาเชื้อเพลิง เช่น ถ่าน ถ่านหิน น้ำมัน เชื้อเพลิง อะไรๆ ต่างๆ เหล่านี้ ทั้งหมดทำให้คาร์บอนขึ้นไปในอากาศจำนวน 5 พันล้านต้นต่อปี
แล้วก็ยังมีการเผาทำลายป่าอีก 1.5 พันล้านตัน
รวมแล้ว เป็น6.5 พันล้านตัน ถ้าขึ้นๆไปอย่างนี้
ก็เท่ากับเกือบสิบเปอร์เซนต์ ของจำนวนที่มีอยู่แล้วในอากาศ
ถ้าไม่มีอะไรที่จะทำให้จำนวนของสารนี้ในอากาศลดลง
ก็จะทำให้สารนี้กลายเป็นเหมือนตู้กระจกครอบ ทำให้โลกนี้ร้อนขึ้น
ก็เกิดเรื่องยุ่งตามที่ได้กล่าวแล้ว
พูดกันว่าต้นไม้ทำให้จำนวนคาร์บอนมีน้อยลงได้ ก็เป็นความจริง
ต้นไม้ทั่วโลกในปัจจุบันนี้
กินคาร์บอนได้ในอัตรา 110 พันล้านตัน (แสนหนึ่งหมื่นล้านตัน) ต่อปี
ก็เป็นอันว่าถ้าเป็นเช่นนั้น ก็สบายใจได้
แต่ว่าถ้าเราดูต่อไปอีก ต้นไม้นั้นเองมันกำไรเพียงครึ่งเดียว
ในครึ่งนี้ยังมีดินหรือสิ่งที่กำลังสลายตัวต่างๆ
ที่จะส่งคาร์บอนขึ้นไปในอากาศอีก 54.5 พันล้านตัน (ห้าหมื่นสี่พันห้าร้อยล้านตัน) ลงท้ายก็จะได้กำไรเหลือเพียงห้าร้อยล้านตัน
ฉะนั้นถ้าดูแล้ว ยังขาดทุนอีก 6 พันล้านตัน
มีอีกอย่างหนึ่ง ก็คือทะเล ทะเลนั้น
เขาจะส่งคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นไปบนฟ้า 90 พันล้านตัน (เก้าหมื่นล้านตัน)
แต่ในเวลาเดียวกัน
เขาก็ดูดคาร์บอนจากอากาศมา 93 พันล้านตัน (เก้าหมื่นสามพันล้านตัน)
ที่เขาส่งออกไปนั้น เก้าสิบ ที่เขาดูดลงมา เก้าสิบสาม
หมายความว่าเขาทำกำไรให้ 3 พันล้าน
ถ้าบวกทั้งหมด
เป็นอันว่ายังมีการเพิ่มคาร์บอนในอากาศ 3 พันล้านตัน ทุกปีๆ
อันนี้ทำให้นักวิชาการเขาเดือดร้อน
วิธีแก้ไขก็คือ ต้องเผาน้อยลง และต้องปลูกต้นไม้มากขึ้น…”
================================================
วันนี้กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวการจัดงานวันสิ่งแวดล้อมไทย 4 ธันวาคม
โดยยึดพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวข้างต้นเป็นแนวคิดหลักครับ
เราเพิ่งตื่นตัวเรื่องโลกร้อนกันไม่กี่ปีนี้เอง
แต่ในหลวงของเราทรงเตือนเรามากว่า 18 ปีแล้ว
ในงานแถลงข่าวมีแสดงลิเกสิ่งแวดล้อมของเด็ก ๆ
จากโรงเรียนศรีเอี่ยมอนุสรณ์ ย่านบางนา ครับ
เป็นลิเกดูสนุกเพลิดเพลินน่ารักมาก ๆ
ถามอาจารย์บุญปลูก เนินกลาง ผู้ควบคุมคณะลิเก บอกว่า
คณะนี้มีตั้งแต่เด็กอนุบาล 1 (ซึ่งชอบ “ออกแขก” กันมาก) ไปจนถึง ป.6
เด็ก ๆ ทำหน้าที่ตั้งแต่เล่นลิเก ไปจนถึงตีระนาด
ท้องเรื่องเด็ก ๆ คิด แต่กลอนร้อง ครูช่วยประพันธ์
คว้ารางวัลมาแล้วหลายเวทีครับ
เก็บภาพวีดิโอมาฝากให้ดูกันเพลิน ๆ…
[googlevideo=http://video.google.com/googleplayer.swf?docId=-4543888711966335133]
หลังแสดงเสร็จ…นักข่้าวรุมล้อมกันเพียบครับ
นักข่าว : คิดว่าเราจะช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร
เด็ก : ก็ต้องเปลี่ยนการใช้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนมาใช้รถ NGV ครับ
นักข่าว : อืมมมม!!!!
คุณมาอันดับหนึ่ง
คนทั่วไปที่ชอบคือคุณ Boy ส่วนของผอ.วสันต์ของคุณๆ ยังไม่มี up อีกเลย สงสัยไม่มีเวลา
ชอบจ้า
พี่อ้อจ้า
ชอบมากครับ
เข้าใจหาวิธีนำเข้าสู่เรื่อง พร้อมแหล่งที่มาของข้อมูล
รวมทั้งสื่อประกอบ ทำให้ดูเป็นการเข้ากับ New Media
ของ อสมท.ได้ดีเยี่ยมจริงๆ แล้วจะเข้ามาติดตามเรื่อยๆ
เพราะก็ติดตามรายการที่พี่จัดด้วยน่ะครับ
ต้อง….
ต้องเพิ่มราคาน้ำมัน
ต้องปรับปรุงระบบคมนาคม
ต้องทำให้โรงเรียนทุกที่มีคุณภาพเท่ากัน
= ต้องพัฒนาระบบการศึกษา
ต้องพัฒนาระบบประกันสุขภาพ
ต้องพัฒนาให้พ่อแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้น!!!!
One thought on “[23 พ.ย.2550] …เรื่องหนึ่งซึ่งเขาเดือดร้อนกันทั่วโลก…”