[19 พ.ย.2550] พลุ!

Posted on Monday 19 November 2007 at 16:16

ปลายสัปดาห์ก่อนได้มีโอกาส
คลุกคลีกับ…วัตถุระเบิด!

กระทรวงกลาโหมร่วมกับ หลายหน่วยงาน
จัดประกวดและแสดงพลุ นานาชาติเิฉลิมพระเกียรติฯ ๘๐ พรรษา
ประกวดวันที่ 16 และ แสดงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2550
ณ ที่ราบลุ่มริมทะเลสาบเมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ

คณะเตรียมงานเข้าพื้นที่เป็นสัปดาห์ก่อนหน้า
สร้างเวทีขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ไว้จุดพลุนะครับ
เอาไว้ให้นักดนตรีสี่เหล่าเข้ามาร้องบรรเลงเพลงเฉลิมพระเกียรติฯ
(ซึ่งไพเราะมาก ๆ อย่างกับเิปิดซีดี)

ส่วนพื้นที่โล่งกว้างหน้าเวิ้งน้ำ ได้ถูกกั้นขอบเขต
วางเก้าอี้วีไอพีและ “วีวีไอพี”ร่วม 20,000 ตัว

ใคร ๆ ก็คงอยากจะเห็นความสวยงามของพลุ
แต่ผมอยากเห็นด้วยว่า “คนจุดพลุ” มีความเป็นอยู่กันอย่างไร

วันที่ 15 ก่อนถึงงานหนึ่งวัน มีการซ้อมใหญ่
ทีมข่าวของเราได้ไปดูการเตรียมความพร้อม
เพื่อนำมาผลิตเป็นรายงานพิเศษออกในเช้าวันรุ่งขึ้น

พลุถูกวางให้ยิงมาจาก 3 จุด ริมน้ำด้านหลังทะเลสาบ
แต่ละจุดห่างกันนับร้อยเมตร
แบ่งเป็นพื้นที่ของ อิตาลี จีน และ ออสเตรเลีย
ผมได้ใช้ช่วงเย็นก่อนจะมีการซ้อมยิง 2 นาที
แวะเข้าไปหาทีมงานจากทั้ง 3 ประเทศ

ในส่วนของอิตาลี
กระบอกพลุเป็นตับ ถูกตั้งและฝังบนเนินดินเรียงราย
มีพลาสติกใสคลุมไว้ อย่างเป็นระเบียบ
กระบอกพลุเล็กใหญ่แตก ต่างกันไป
มีตั้งแต่ประมาณท่อ น้ำก๊อก
จนถึงแป๊ปน้ำทิ้ง

ทีมงานกำลังง่วนกับ การเตรียมพลุสำหรับการประกวด
เมื่อทราบว่าเราจะมา ถ่ายข่าว
หัวหน้าทีมก็สั่งทีม งานอีก 3 คน
ให้นำเสื้อทีมออกมา ใส่
เป็นเสื้อยืดสีขาว เรียบ
มีโลโก้บริษัท และคำว่า THAILAND
จากนั้นก็ก้มหน้าก้ม ตาทำงานต่อ
เรียกว่า “เป็นงาน” พอสมควร

ที่จริง
กระบอกพลุของแต่ละ แห่ง
ก็ไม่ได้ต่างกัน รวมถึงของไทยด้วย
แต่ ลูกพลุ ของอิตาลีนี่ไม่ค่อยเหมือนของที่เคยเห็น
พลุที่เคยเห็นจะ ลักษณะเหมือนลูกมะพร้าวปอกเปลือก
ห่อหุ้มอย่างดี มีชนวนโผล่ออกมา

แต่ลูกพลุของอิตาลี ตัวที่เขาเอามาโชว์ผม
หลังจากผมถามว่าอัน ไหนไฮไลต์
เป็นพลุที่ลักษณะ เหมือนกระป๋องสี
เป็นทรงกระบอก ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล
เขาบอกว่าตัวนี้แหละ ทีเด็ด
ยิงขึ้นฟ้าแล้วแตก หลาย ๆ ชั้น

ถ้าใครได้ชมของอิตาลี
จะเห็นพลุที่มีลักษณะ เหมือนจานบิน
วันที่ผมแวะไปนี้ พวกเขากำลังเก็บงาน
นั่งบรรจุพลุชนิดนี้ กันอยู่พอดี

คล้าย ๆ กับเทียนพรรษา ปักไว้บนใบพัดลม
หรือจะเรียกเป็นเชิง เทียนแบบแผ่นกลมก็ได้
พลุแต่ละแท่งถูกเสียบ ไว้รอบเป็นแนววง
ผมถามเขาว่า “นี่อะไร”
เขาบอกว่าเป็นพลุ UFO
จุดแล้วมันจะหมุนขึ้น ฟ้า
โครงสร้างกับพลุ ประกอบกันอย่างลงตัว
เมื่อพลุทำงาน แรงขับด้านล่างจะทำให้พลุทั้งชุด
หมุึนสูงขึ้นเรื่อย ๆ…
นี่ถือว่าใช้ความรู้ ด้านอวกาศยานผสมด้วยครับ

พลุของอิตาลี จะมีสไตล์การนำเสนอที่มีมิติ
แบบอยู่ใกล้ และอยู่ไกลผู้ชม
มีพลุที่แตกตัวแบบนุ่มนวล สีเบา ๆ เข้ากับเพลงช้า ๆ
และมีพลุที่แตกตัวได้หลายสเต็ป
เข้ากับเพลงคึกคัก

ภาพนี้ถ่ายจากด้านหน้า  เป็นพื้นที่โล่งหน้าทัพเก้าอี้

ถัดมาเป็นของจีน
ทีมงาน 2-3 คนกำลังเร่งติดตั้งพลุในกระบอก
เข้าไปสนทนาด้วยรู้เรื่อง เพราะคนหนึ่งเป็นชาวสิงคโปร์
เมื่อถามรายละเอียดพลุที่จะจุด
เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยยอมบอกอะไร
บอกให้ไปถามคุณฟรานซิส ถามคุณฟรานซิส
นี่ก็เป็นอีกแนวหนึ่งของนโยบายการให้ข้อมูลข่าวสาร

ย้อนกลับไปที่คนอิตาลี
ผมถามเขาว่าที่อิตาลีมีพลุขายให้ชาวบ้านซื้อเล่นไหม
เขาบอกว่ามี แต่กำหนดอายุผู้เล่น ต้องไ่ม่ต่ำกว่า 18 ปี
และมีกำหนดสถานที่อนุญาตให้เล่น
แต่เมื่อถามคนสิงคโปร์ เขาบอกว่า
เล่นพลุนี่โทษหนักน่าดู

ผมบอกทั้งสองชาติด้วยความภูมิใจว่า
ช่วงนี้ลอยกระทงของไทย
มีพลุให้เล่นเพียบ หาซื้อได้ทั่วไป
และใคร ๆ ก็เล่นได้ครับ!!

ไปออสเตรเลีย กันดีกว่า
อยู่เลยไปอีกมุมหนึ่ง
ตรงกันข้ามกับของ อิตาลี
ทีมงาน 4 คน อยู่ระหว่างเก็บงานสุดท้าย
สไตล์การจุดพลุของที่ นี่ จะเตรียมพลุชุดเล็กไว้ยิงเป็นฉากหลัง
ขณะที่พลุชุดใหญ่จะ ระเบิดอย่างสวยงามด้านหน้า
หากใครได้ชม ชุดที่คนชอบที่สุดคงจะเป็นพลุรูปหัวใจ

ทีมงานที่นี่เฮและฮา มาก
พอกล้องเข้าไปถึง
รีบหยอกล้อ ชี้ให้กล้องถ่ายเพื่อนคนโน้นคนนี้
แต่เมื่อผมดูการทำงาน แล้ว
เ็ห็นความเป็นมือ อาชีพจริง ๆ
ทุกอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อย

ที่ไม่ได้บอกใครก็คือ
เมื่อถามว่าพลุจาก ตัวแทนบริษัทในออสเตรเลียเป็นอย่างไร
หัวหน้าทีมจูงมือพาผม ไปดูที่กระบอกพลุ
เขาดึงลูกพลุขึ้นมา
แล้วยกให้ดูด้วยความ ภูมิใจ พร้อมอธิบายวิชาการพลุไปหลายอย่าง
ก็ได้ความรู้มาพอควร แต่ที่ผมสะกิดใจ
พลุลูกนั้น Made in China ครับ

ก็อย่างที่เขาได้กา รันตีนั่นแหละ
ว่า จีน คือแหล่งผลิตพลุรายใหญ่ของโลก
พลุร้อยละ 80 ที่ระเบิดกันทุกวัน
มาจากแผ่นดินใหญ่นี้ นั่นเอง

[[ มาถึงตรงนี้…หลายคนคงคิดว่ามันเป็นบล็อกอะไรที่ยาวมากๆๆๆๆๆๆ
แต่กรุณาฟังต่อให้จบ เพราะใกล้จะจบแล้ว … ผมสัญญาว่าจะเขียนสั้น ๆ ]]



วันประกวดผ่านไป ท่ามกลางความประทับใจ
จีนได้ถ้วยรางวัลชนะ เลิศพระราชทาน
จากสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
คำถามที่ตามมา ซึ่งได้ยินบ่อยมาก มากจนแปลกใจ
คือ หลายคนเข้าใจว่า วันที่ 16 ประกวดไปชาติเดียว
เดี๋ยววันที่ 18 ประกวดต่อ
บางคนก็คิดว่า วันที่ 18 จะเป็นพลุรอบชิงชนะเลิศ

แต่ความจริงคือ พลุประกวดวันเดียว
ส่วนวันที่ 18 เป็นวันแสดงเพียว ๆ

การแสดงพลุวัน ที่ 18 มีรายละเอียดที่อลังการ
ฟังแล้วตื่นเต้น
แต่ถ้าได้ดูแล้วจะ ตื่นเต้นกว่าได้ยินเสียอีก…

พลุของสี่เหล่า เปิดมาด้วยดอกไม้ไฟสัญลักษณ์สี่เหล่า
ประกอบเพลงปลุกใจดั้งเดิม ที่ทำให้ผมเริ่มเคลิ้ม…
แต่สุดท้ายปิดด้วยพลุไฟหลากสี พุ่งขึ้นฟ้าแบบไม่ยั้ง
สวยงามมาก ๆ

มาถึงพลุโชว์…
สิ่งที่แปลกใหม่ใน สายตาผม
(ซึ่งก็ไม่เคยได้ดู พลุมากเท่าไหร่หรอก)
นั่นคือ การนำเสนอที่ “เป๊ะ” กับเพลง
แบบอะไรจะเป๊ะได้ขนาด นั้น
ถ้าให้เต้นเข้ากับ เพลง มันก็ขยับเอาง่าย ๆ
แต่พลุนี่ต้องกะระยะ ให้ขึ้นไประเบิดจังหวะเดียวกับเพลง
ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ถ้าพูดว่าเอา คอมพิวเตอร์มาึคำนวณและควบคุม
ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก เท่าไหร่
เพียงแต่ว่า คอมพิวเตอร์ จะต้องรู้ว่าพลุที่จะยิงแต่ละลูก
นั้นใช้เวลาหน่วงใน การพุ่งขึ้นไปเท่าไหร่ ระเบิดเมื่อไหร่

อีกอย่างที่แปลกคือ การแตกตัวของพลุ
ไม่ใช่เอาแต่ระเบิด เปรี้ยงปร้างเป็นว่าเล่น
แต่บางลูก เราไม่เห็นการระเบิดด้วยซ้ำ
ฟ้ามืด ๆ อยู่ดี ๆ มีแว้บเป็นน้ำตกสีทองไหลออกมาช้า ๆ
บางลูกขึ้นไประเบิด แล้วตั้่ง 2 วินาที กว่าจะปรากฏแสง

และอีกอย่างที่แปลก
เข้าใจว่าเป็นอัน เดียวกับที่คนอิตาลีบอก
คือมีพลุมาจุดอยู่ ข้างหน้าใกล้ ๆ คนดู
ก็ตื่นเต้นดีนะครับ

แต่ผมว่าใกล้ไปรึ เปล่าไม่รู้
เล่นเอาเขม่าเศษพลุตก ใส่ หัว – ไหล่ – เข่า
โดยเฉพาะเก้าอี้วีวี ไอพี
ดูพลุอย่างตื่นเต้น เพราะต้องลุ้นว่า
เศษพลุจะถูกเผาไหม้ หมดไป
ก่อนจะลงมาถึงตัวหรือ เปล่า
แถมด้วยควันขาวโขมง มาก ๆ
ผนวกกับลมที่เป็นใจ พัดสู่เก้าอี้วีวีไอพีแบบเต็ม ๆ

หยอกล้อเล็ก ๆ ครับ
(เรื่องจริง) อย่าคิดมาก…



สุดท้าย อีกกลุ่มที่ไม่พูดถึงไม่ได้
(และเป็นความเสียดาย ที่สุด ที่จับภาพคนกลุ่มนี้ไม่ได้)

ว่ากันด้วยเรื่องความ ทุ่มเทของช่างภาพกับงานพลุ
ใคร ๆ ก็ต้องการมุมสวย ๆ
ถ้านึกออก ตรงนั้น จะมีตึกสร้างไม่เสร็จ
สูงมาก ๆ สัก 20 กว่าชั้น

หกโมงเย็นมองขึ้นไป เห็นขาตั้งกล้อง และขาช่างภาพ
เรียงรายอยู่เต็ม ดาดฟ้า
ตึกร้างมันมีลิฟต์ ที่ไหนล่ะ
ต้องตบมือให้ว่าขยัน จริง ๆ

แต่ขอบอกว่า
ลมก็ให้รางวัลช่างภาพ เหล่านี้เหมือนกัน

หลังจากควันขาวถูกพัด ผ่านวีวีไอพีไปแล้ว
ลมเอย ก็พัดพาควันขาวเหล่านั้น
ขึ้นไปสู่ดาดฟ้า หลังคาตึก
ผมหันไปก็ไม่สามารถ มองเห็นพวกเขาได้

ทัศนวิสัยไม่เอื้อครับ…


ปล.ภาพที่เห็นทั้งหมด ถ่ายด้วยกล้องมือถือ 2M pixel นะครับ
ไม่สวยงาม กรุณาให้อภัยด้วยขอรับ…

สุดยอด

Posted on Monday 19 November 2007 at 18:01 by Anonymous
มีพัฒนาการ บล็อกมีภาพแบบนี้ชวนติดตาม ทำแบบโปรแกรมแฟลช หรือเป็นภาพเคลื่อนไหวมีไหม ยังไงก็ขอบคุณ ภาพสวยมาก

ถามหน่อยครับ

Posted on Tuesday 20 November 2007 at 11:46 by Anonymous
อ่านบล็อคย้้อนหลังของคนอื่นได้ทางไหนครับ หรือใน mcot blog บังคับให้อ่านได้แค่ครั้งละ 4 บล็อค

ตอบการอ่านบล็อกย้อนหลัง

Posted on Tuesday 20 November 2007 at 13:48 by พีรพล
ลองเข้าโดยตรงไปที่

http://blog.mcot.net

ก็จะเห็นคนเขียนบล็อกมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ครบคนอยู่ดี…

(ก็ยังดีนะ)

สวยมากครับ

Posted on Friday 30 November 2007 at 11:05 by Anonymous
สวยมากๆ

ประมวลภาพในหลวงกับพระสุปฏิปันโน

Posted on Friday 30 November 2007 at 11:09 by Anonymous
ลองเข้าไปที่นี่ดูสิครับ หาดูยากนะครับ ผมชอบมากๆเลยอะ
ประมวลภาพในหลวงกับพระสุปฏิปันโน

http://www.oknation.net/blog/e4g6/2007/11/28/entry-2

http://astore.amazon.com/philips-norelco-20/detail/B000UK163K

Posted on Monday 19 January 2009 at 21:31 by Anonymous
พลุสวยดีครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.