Site icon YOWARE

สรุปโปรฯ ระดับ Max จาก TrueMove H กับ iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR

 

#Advertorial

เปิดขายเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาลองไล่เรียงโปรฯ ที่น่าสนใจจาก TrueMove H จัดตามกลุ่มสไตล์ลูกค้าหลากหลายแบบ ทางเลือกไหนจะดีที่สุด สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกซื้อ iPhone ใหม่ในปี 2018 นี้

เช้าวันที่ 26 ตุลาคม 2561 เปิดขายอย่างเป็นทางการกับ iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR ทั้งร้านออนไลน์ และหน้าร้าน ทั้งผู้ให้บริการและตัวแทนจำหน่าย แต่คำถามของหลาย ๆ ท่านที่กำลังตัดสินใจเรื่องโปรโมชั่น ก็อาจจะยังไม่รู้จะเลือกทางไหนกันดี

 

ก่อนจะเข้าสู่ผังเนื้อหา หลักการสำคัญของการพิจารณาครั้งนี้จะต้องเริ่มต้นที่ เราได้พิจารณาดีแล้วว่า สมควรซื้อ iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้แน่นอน และเราต้องการจะวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด

แนวคิดพื้นฐานของโปรฯ iPhone จาก TrueMove H ในปีนี้ ไม่ว่าจะเลือก iPhone รุ่นใด ก็จะมีส่วนลดและค่าใช้จ่ายในสัดส่วนเดียวกัน ดังที่ได้แจกแจงไปแล้วในช่วงการเปิดจอง ซึ่งส่วนลดและสิทธิพิเศษส่วนใหญ่ยังอยู่ครบ แบ่งเป็น 3 แบบ คือ

1. สัญญา 12 เดือน : แพ็กเกจกลุ่มนี้จะทำให้ได้รับส่วนลดสูงสุด

2. สัญญา 6 เดือน : ถ้ามีแผนว่าจะเปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจอื่นภายใน 6 เดือน สามารถเลือกแพ็กเกจนี้ได้ เพื่อความคุ้มค่าตามสถานการณ์จริงที่สุด

3. ต่อสัญญาแพ็กเกจเดิม 12 เดือน : เหมาะกับท่านที่มีแพ็กเกจเดิมอยู่แล้ว พอใจกับของเดิม และไม่ต้องการจ่ายค่าบริการล่วงหน้า ก็เซ็นสัญญาต่อเนื่องไปด้วยโปรฯ เดิมได้เลย

 

แต่ถ้าให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นในอีกมุมหนึ่ง ในบทความนี้เราจะมามองแยกตามกลุ่มลูกค้ากัน

ลดสูงสุด : ลูกค้าย้ายค่าย

ลูกค้าที่ย้ายค่ายสำเร็จตั้งแต่ 1 กันยายน 2561 เข้าข่ายได้รับสิทธิส่วนลดเพิ่ม 1,000 บาท ไม่ว่าจะเลือกโปรฯ แบบสัญญา 12 เดือน หรือ 6 เดือนก็ตาม

นี่ก็ลดสูงสุด : ลูกค้าที่มีบัตรทรูแบล็คการ์ด และ ลูกค้าที่ซื้อ iPhone กับ TrueMove H

เพียงมีทรูแบล็กการ์ด หรือ เคยซื้อ iPhone 6s ขึ้นไปจาก TrueMove H ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ได้รับสิทธิส่วนลดเพิ่ม 1,000 บาท หากเลือกแพ็กเกจแบบสัญญา 12 เดือน

สิทธิพิเศษสำหรับท่านที่เคยซื้อ iPhone ในปีก่อน ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าเดิมได้มากขึ้น และเป็นการตอบแทนความผูกพันในอีกรูปแบบหนึ่งได้

ลูกค้าปัจจุบันของ TrueMove H : ลด-เลือก-ได้

ถ้าเป็นลูกค้าทรูอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรายเดือน หรือเติมเงิน ก็สามารถใช้เบอร์เดิมมารับส่วนลดกับแพ็กเกจใหม่ได้ทันที ไม่ว่าจะต่อสัญญา 12 เดือน หรือ 6 เดือน

กรณีที่ประสงค์จะใช้โปรฯ เดิมต่ออีก 1 ปี ก็มีส่วนลดให้เช่นกัน 3,000 หรือ 5,000 บาท วันทำสัญญาก็ไปรับเครื่อง จ่ายเฉพาะค่าเครื่อง (ที่ลดแล้ว) และไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม กรณีนี้โปรฯ เดิมของคุณจะต้องน่าพอใจมาก ๆ ขอแนะนำให้พิจารณาเทียบโปรฯ ใหม่ กับโปรฯ เดิม ไว้ด้วย เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด (เพราะโปรใหม่แบบ 12 เดือนก็คุ้มอยู่เหมือนกัน

ลูกค้าที่ยังไม่หมดสัญญาเดิม : อาจเปลี่ยนได้

ในกรณีที่สัญญายังเหลือเกิน 90 วัน แปลว่ายังคงมีความจำเป็นต้องใช้สัญญาเดิมไปก่อน แต่ถ้าสัญญาใกล้หมด เหลือไม่เกิน 90 วัน ก็จัดได้เลยตามที่ต้องการ​

ราคาแพ็กเกจไหนดี ? : 899 คือตัวเลือกที่ใช้ได้เต็มที่

ถ้าเจาะลึกลงไปถึงราคาแพ็กเกจแล้ว โดยส่วนตัวมองว่าแพ็กเกจราคาต่ำสุดที่สามารถใช้เน็ตได้ไม่อั้น ไม่ลดสปีด น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุด สำหรับยุคปัจจุบันที่เราใช้เน็ตกันมากกว่าโทร (หรือบางคนก็ใช้เน็ตโทร) เน็ตความเร็วสูงสุดที่ใช้ได้ต่อเนื่องอาจมีความจำเป็นสำหรับบางท่าน

ท่านใดเดินทางระยะสั้น เช่นวัน ๆ ทำงานอยู่ที่บ้าน เน็ตไม่เคยหมดโควต้า แนะนำให้เลือกแพ็กเกจระดับ 699 ได้ เพราะเน็ตแบบไม่ลดสปีดอาจจะเกินความจำเป็นของท่าน

ท่านใดที่โทรเยอะ และต้องการความเสถียรในการโทรมากกว่าการโทรผ่านเน็ต ก็คงต้องดูตามจำนวนนาทีและแพ็กเกจการโทรด้วย

ที่สำคัญ ถ้ามีบัตร อย่าลืมใช้สิทธิผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน ช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องลงเงินก้อนในครั้งแรกคราวเดียว

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ คิดให้ดีที่สุด และเมื่อเราตกลงใจจ่ายซื้อไปแล้ว เรามาใช้ให้ดีที่สุด และเกิดมูลค่าสูงสุดกันนะครับ

Exit mobile version