แต่เวลา สถานที่ ไม่เอื้ออำนวย
วันนี้เลยเก็บมาฝาก 2 เรื่อง
ถือเป็นเรื่องเบา ๆ สุดสัปดาห์
เบา…แรง คนเขียน
เบา…สมอง คนอ่าน
===================================
ภาพแรกนี้ ไม่ต้องมีคำบรรยายใด ๆ ให้มาก
เก็บมาฝากจากโรงพยาบาลศิริราช
เมื่อบ่ายโมงกว่า ๆ วันเสาร์ที่ 24 พ.ย.2550
คณะนักเรียนหูหนวกจากโรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์
เดินทางมาลงนามถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นำโดยอาจารย์ญาดา ชินะโชติ
อาจารย์เกษียณมาแล้ว 1 ปี
แต่ยังแข็งแรงมาก ๆ
พาเด็ก ๆ มา คุมเด็ก ๆ อย่างกระฉับกระเฉง
อาจารย์ญาดาเป็นครูประจำหอพัก
อาจารย์ก็หูหนวก แต่พูดพอได้ครับ
อาจารย์เป็นนักเรียนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณส่งให้เรียนจนจบปริญญาตรี
อาจารย์จึงกลับมาและสอนเด็ก ๆ เหล่านี้
ที่ต้องเผชิญประสบการณ์ไม่ต่างกับตนเอง
คณะนักเรียนเตรียมสิ่งของมาทูลเกล้าฯ ถวาย
ประกอบด้วยสมุดลงนามถวายพระพรโดยนักเรียนหูหนวกจากทั่วประเทศ
และพานที่มีงานฝีมือ รูปมือ “I LOVE YOU” กับ “ดอกแก้วกัลยา”
เรื่อง ดอกแก้วกัลยา นี้ ค้นจากเว็บไซต์อื่น ๆ พบที่มาดังนี้…
(จาก www.tddf.or.th/tddf/library/files/doc/library-2006-10-15-89.doc กับที่หน้าห้องสมุดของ มูลนิธิ พัฒนาคนพิการไทย)
“…..สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนามดอกไม้ประดิษฐ์ ซึ่งประดิษฐ์โดยคนพิการในศูนย์ส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่า “ ดอกแก้วกัลยา ” พร้อมทั้งพระราชทานพระอนุญาตให้ใช้เป็น ดอกไม้แห่งสัญลักษณ์ของคนพิการทั่วประเทศ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คนพิการ องค์กรของคนพิการ และทรงมี พระดำรัสให้ ฝึกอบรมอาชีพคนพิการเพื่อประดิษฐ์ “ ดอกแก้วกัลยา “ รวมทั้ง จัดจำหน่าย เพื่อนำรายได้ไปดำเนินงานพัฒนา และส่งเสริมอาชีพคนพิการในองค์กรคนพิการทั่วประเทศ
“ ดอกแก้วกัลยา ” จินตนาการมาจากดอกไม้ ๒ ชนิดตระกูลดอกแก้วคือ ดอกแก้วเจ้าจอม และดอกแก้ว ดอกแก้วเจ้าจอม เป็นดอกไม้สีม่วงคราม สวยสง่าแต่อ่อนหวาน
ดอกแก้ว เป็นดอกไม้สีขาว มีกลิ่นหอม…”
น้องคนหนึ่งยังได้ทำภาษามือ ที่มีความหมายว่า
ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยไว
(ความจริงเตรียมภาพเดี่ยวแบบใกล้ ๆ ของน้องคนนี้ไว้
แต่ไฟล์วีดิโอมีปัญหาบางประการครับ ต้องขออภัยด้วย
วีดิโอตัวนี้เลยดูแล้วเวียนหัวเล็กน้อย)
[googlevideo=http://video.google.com/googleplayer.swf?docId=4353136810108850949]
ฝากท้ายช่วงแรกด้วยภาพน่ารัก ๆ มาก
=========================================================
ตกเย็น ไปเดินเล่นริมน้ำ ดูบรรยากาศการลอยกระทง
ได้ไปทั้งในที่จอแจ อย่างสวนสันติไชยปราการ…
…และที่ที่สงบเงียบ…
…อย่างที่สระน้ำของโรงเรียนพิบูลย์ประชาสรรค์ ดินแดง…
เรียบง่ายได้ใจ และคนที่มาก็เป็นคนที่ไม่ได้คาดหวังมหรสพใด ๆ
ชอบที่สุดคือ ป้ายที่ติดอยู่หน้าทางลงไปลอยกระทงริมน้ำ
และมีการตั้งตู้ข้าง ๆ ที่อ่านไม่ชัดนั่นคือ ตู้บริจาคค่าทำความสะอาดสระน้ำ
ดูกันชัด ๆ อีกที โดยเฉพาะข้อสุดท้าย…
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…อย่าเล่นพลุจนดึกดื่น คนอื่น ๆ ไม่ได้นอน
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…อย่าลงไปเก็บสตางค์ คว่ำกระทง ทำร้ายจิตใจประชาชน
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…อย่าไปเถลไถลจนต้อง “เจ็บตัวและเสียใจ” (กรุณาอย่าอ่านกลับ)
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…กลับตัวกลับใจ… ไหน ๆ ก็เชื่อว่า ทุกข์โศกได้ลอยไปแล้ว
แล้วคุณล่ะครับ ถ้าหาก…
เมื่อลอยกระทงเสร็จขอให้กลับ…
คุณอยากกลับอะไร…
Untitled Comment
Posted on Sunday 25 November 2007 at 21:05 by Anonymousอยากให้เศรษฐกิจกลับไปดีเหมือนเดิมก่อนการปฏิวัต และอยากให้ บมจ.อสมท ของเราเจริญรุ่งเรืองมีกำไรเยอะๆเหมือนเดิมไม่ไช่กำลังจะขาดทุนอยู่ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะโทษใครดีช่วยกันคิดให้มากๆหน่อย….
Posted on Monday 26 November 2007 at 01:04 by Omuกลับมาตรงนี้อย่าไปยึดกับอดีต
Posted on Monday 26 November 2007 at 19:56 by Anonymousคุณความเห็นที่ 1 อย่าไปยึดกับความรุ่งโรจน์ของอดีต ลองพิจารณาให้ดีว่ากำไรมาจากไหน อยากให้การเมืองเข้ามายุ่งกับองค์กรของคุณเหมือนในอดีต แล้วก็หลงใหลได้ปลื้มกับกำไรและเงินในกระเป๋าของพวกคุณ โดยไม่นึกถึงส่วนรวมหรือ คนทำงานสื่อควรต้องนึกถึงส่วนร่วมมากกว่าส่วนตัว อย่าบอกว่ามีลูกมีครอบครัวต้องเลี้ยง ทุกคนมีภาระกันทั้งนั้น แต่เมื่อเลือกอาชีพนี้แล้ว คุณต้องเข้าถึงหัวใจของอาชีพ อย่าคร่ำครวญถึงอดีต ทำวันนี้และอนาคตให้ดี อย่าให้ใครว่าได้ดีกว่า อนาคตของอสมทขึ้นกับพวกคุณ ไม่ใช่ใคร